ชิบะอินุ(SHIB) กลายเป็นมีมคอยน์รายแรกที่ถูกบรรจุชื่อไว้ใน ‘บัญชีรายชื่อเขียว’ ของญี่ปุ่น ส่งผลให้ได้รับการยอมรับในระดับเดียวกับบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) ภายใต้กรอบกำกับของหน่วยงานกำกับดูแล ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของชิบะอินุในญี่ปุ่นจากเหรียญที่เคยถูกมองว่าเป็นเพียงปรากฏการณ์ชั่วครู่ มาเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับการยอมรับในเชิงการลงทุน
เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ชิบะอินุประกาศผ่านบัญชี X (เดิมคือทวิตเตอร์) เกี่ยวกับการได้รับการจดทะเบียนในบัญชีรายชื่อเขียวโดยสมาคมผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนคริปโตของญี่ปุ่น (JVCEA) ซึ่งเป็นองค์กรที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานบริการทางการเงิน (FSA) รายชื่อดังกล่าวทำหน้าที่เป็น ‘บัญชีขาว’ สำหรับคริปโตเคอร์เรนซีที่ได้รับการยกเว้นจากการตรวจสอบก่อนขึ้นทะเบียนในตลาดซื้อขายของญี่ปุ่น
JVCEA ได้อนุมัติให้ชิบะอินุเข้าบัญชีดังกล่าวเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน โดยเกณฑ์ที่ใช้พิจารณาเหรียญต้องมี ‘ความผันผวนต่ำ’, ‘สภาพคล่องเพียงพอ’ รวมถึง ‘ความปลอดภัยและความโปร่งใส’ ซึ่งรายชื่อปัจจุบันมีโทเคนเพียงราว 30 รายการเท่านั้น รวมถึง บิตคอยน์, อีเธอเรียม, ริปเปิล(XRP), โพลิกอน(MATIC), ไลต์คอยน์(LTC) และเฮเดรา(HBAR)
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การผ่านเกณฑ์ด้านกฎระเบียบ แต่ยังสะท้อนถึงสถานะที่เปลี่ยนไปของชิบะอินุสู่ ‘สินทรัพย์การลงทุนที่ถูกต้องตามกฎหมาย’ ความคิดเห็น: นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ปรับมุมมองของนักลงทุนญี่ปุ่นจากการมองชิบะอินุว่าเป็นเพียงเหรียญกระแส สู่การจัดให้อยู่ในหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ทางการเงินเต็มตัว
ขณะเดียวกัน รัฐบาลญี่ปุ่นและสำนักงาน FSA ก็กำลังพิจารณาปรับโครงสร้างภาษีสำหรับคริปโต โดยญี่ปุ่นในปัจจุบันยังคิดภาษีรายได้จากคริปโตแบบก้าวหน้า ซึ่งอาจสูงถึง 55% ทำให้การลงทุนในตลาดนี้มีภาระภาษีที่สูง โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนรายใหญ่และสถาบัน
อย่างไรก็ตาม FSA มีแผนจะจัดประเภทสกุลเงินดิจิทัลในบัญชีรายชื่อเขียวจำนวน 105 รายการใหม่ให้เป็น ‘ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน’ และลดเพดานภาษีเหลือ 20% หากมาตรการนี้เกิดขึ้นจริง ความต้องการลงทุนในสินทรัพย์อย่างชิบะอินุอาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ความคิดเห็น: การลดอัตราภาษีจะทำให้คริปโตถูกมองว่าเป็นทางเลือกที่น่าดึงดูดยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยเสริมสภาพคล่องและมูลค่าทางตลาด เมื่อมีสถาบันการเงินและแพลตฟอร์มซื้อขายเข้าร่วมมากขึ้น
แนวโน้มของการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบและโครงสร้างภาษีสะท้อนถึงท่าทีของรัฐบาลญี่ปุ่นที่กำลังเร่งเครื่องสนับสนุนอุตสาหกรรมคริปโตให้เติบโตในฐานะหนึ่งในกลไกเศรษฐกิจสำคัญระดับชาติ ชิบะอินุ จึงมีโอกาสขยายบทบาทในตลาดโลกได้มากขึ้น โดยใช้ญี่ปุ่นซึ่งเป็น 1 ใน 3 ศูนย์เศรษฐกิจหลักของโลกเป็นฐานสนับสนุนใหม่ที่แข็งแกร่ง
ความคิดเห็น 0