หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งเบร่าเชน(BeraChain)ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวที่ระบุว่า บริษัทได้มอบ ‘สิทธิ์ขอคืนเงิน’ มูลค่า 2,500 ล้านดอลลาร์(ประมาณ 9.25 พันล้านบาท) ให้แก่กองทุนที่เข้าร่วมลงทุนในรอบซีรีส์ B โดยเรียกข่าวดังกล่าวว่า “คลาดเคลื่อนและไม่ครบถ้วน” พร้อมยืนยันว่า ‘นักลงทุนทุกรายได้รับเงื่อนไขที่เหมือนกัน’
เมื่อวันที่ 8 เว็บไซต์ Unchained รายงานว่ามีข้อตกลงด้านการลงทุนระหว่างเบร่าเชนกับโนวา ดิจิทัล(Nova Digital) กองทุนภายใต้บริหารของ Brevan Howard โดยระบุว่า กองทุนดังกล่าวได้รับ ‘สิทธิ์การขอคืนเงิน’ มูลค่า 2,500 ล้านดอลลาร์สำหรับการลงทุนในรอบซีรีส์ B เมื่อเดือนเมษายน 2024 โดยสิทธินี้จะมีผลตั้งแต่ 6 กุมภาพันธ์ 2025 หรือภายหลังการจัดงานเปิดตัวโทเคน(TGE) อย่างเป็นทางการ และสามารถใช้ได้ในช่วงระยะเวลา 1 ปี
Unchained ยังอธิบายว่า รายงานนี้มีที่มาจาก ‘Side Letter’ หรือเอกสารแนบท้ายสัญญาที่ลงนามโดยที่ปรึกษากฎหมายของเบร่าเชน โจนาธาน อิฟฟ์ และผู้อำนวยการของโนวา ดิจิทัล แคโรล เรย์โนลด์ส ซึ่งเป็นผู้ยืนยันเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับสิทธิ์การคืนเงินดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ‘สม็อกกี้ เดอเบร่า’ ผู้ร่วมก่อตั้งเบร่าเชน ได้ออกมาปฏิเสธผ่านบัญชี X (ชื่อเดิมคือ Twitter) โดยชี้แจงว่า “รายงานดังกล่าวเป็นการให้ข้อมูลเพียงบางส่วนและบิดเบือนข้อเท็จจริง” พร้อมเน้นว่า “ทุกนักลงทุน รวมถึง Brevan Howard ได้ลงนามในข้อตกลงฉบับเดียวกันและไม่มีใครได้รับเงื่อนไขพิเศษ”
เขายังระบุด้วยว่า “โนวา ดิจิทัลซึ่งเป็นกองทุนเน้นยูทิลิตี้ใหม่จากสำนักงานในอาบูดาบี ได้เสนอเข้าลงทุนในรอบซีรีส์ B ตั้งหลายเดือนก่อนและยื่นข้อเสนอนี้ผ่านช่องทางปกติ” และย้ำว่า “แม้การลงทุนของ Brevan จะมีหลายข้อตกลงร่วมกันในเชิงพาณิชย์ แต่โดยหลักการแล้วเงื่อนไขไม่ต่างจากนักลงทุนรายอื่น”
แม้ประเด็น ‘สิทธิ์การคืนเงิน’ จะสร้างความกังวลในตลาดเกี่ยวกับ ‘การให้สิทธิพิเศษ’ แต่อีกมุมหนึ่ง ก็สามารถมองว่าเป็นกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงในช่วงก่อนเปิดตัวโทเคน อย่างไรก็ตาม ความโปร่งใสของการทำข้อตกลงนี้ โดยเฉพาะว่า ‘Side Letter’ ที่ถูกพูดถึงนั้นมีผลบังคับใช้จริงหรือไม่ และนักลงทุนรายอื่นได้รับสิทธิ์เดียวกันหรือเปล่า ยังจำเป็นต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมต่อไป
*ความคิดเห็น: ความโปร่งใสในการเปิดเผยเงื่อนไขการลงทุนกลายเป็นประเด็นสำคัญ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมคริปโตที่เน้นความยุติธรรมและความไว้เนื้อเชื่อใจจากชุมชน หาก ‘Side Letter’ กลายเป็นมาตรฐานใหม่ บริษัทที่ออกโทเคนในอนาคตอาจต้องเปิดเผยรายละเอียดแบบ ‘On-chain’ เพื่อป้องกันความคลางแคลงใจในตลาด*
ความคิดเห็น 0