เทเธอร์(Tether) ผู้ออกเหรียญสเตเบิลคอยน์รายใหญ่ ได้สะสมทองคำในปริมาณมหาศาลจนสามารถเปรียบเทียบได้กับธนาคารกลางระดับแนวหน้าทั่วโลก โดยตามรายงานของเจฟเฟอรีส์ (Jefferies) ธนาคารเพื่อการลงทุนระดับโลก เทเธอร์ในปัจจุบันถือครองทองคำแท่งอยู่กว่า 116 ตัน ซึ่งเทียบเท่ากับปริมาณทองคำที่ถือครองโดยธนาคารกลางของประเทศอย่างเกาหลีใต้ ฮังการี หรือกรีซ
จากรายงานล่าสุด เจฟเฟอรีส์ระบุว่า เทเธอร์เป็น ‘สถาบันนอกระบบธนาคารกลางที่ถือครองทองคำมากที่สุด’ ซึ่งส่งผลให้มี ‘อิทธิพลต่อราคาทองคำ’ ในระดับที่น่าจับตามอง โดยในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ เทเธอร์มีสัดส่วนการซื้อทองคำสูงถึงประมาณ *2% ของความต้องการทั่วโลก* และคิดเป็น *12% ของปริมาณซื้อสุทธิของธนาคารกลาง*
สิ่งที่น่าสนใจคือ ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา เทเธอร์ดำเนินกลยุทธ์การเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง จนทำให้เกิดการลดลงของปริมาณทองคำในตลาด ส่งผลต่อ *จิตวิทยาตลาด* และนำไปสู่กระแสการไหลเข้าของเงินทุนเชิงเก็งกำไร
นักลงทุนให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เทเธอร์มีแผนจะเพิ่มการถือครองทองคำอีก 100 ตันภายในปี 2025 ซึ่งดูเหมือนมีแนวโน้มเป็นไปได้ เพราะบริษัทคาดว่าจะสร้างกำไรสุทธิที่ราว *15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 522,175 ล้านบาท)* ภายในปีนี้
นอกเหนือจากการซื้อทองคำโดยตรง เทเธอร์ยังขยายการลงทุนใน *อุตสาหกรรมเหมืองแร่และการกลั่นทองคำ* ด้วย โดยในปีนี้ได้ทุ่มงบกว่า *300 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4,423 ล้านบาท)* ลงทุนในบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับการขุด รียูส และสิทธิการซื้อขายทองคำ ที่สำคัญคือ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เทเธอร์เข้าซื้อหุ้น 32% ของ ‘เอลิเมนทัล อัลทัส’ บริษัททองคำจดทะเบียนในตลาดหุ้นแคนาดา และในเดือนกันยายน ได้มีการเปิดเผยแผนลงทุนทั่วทั้ง *ห่วงโซ่อุปทานของทองคำ*
อีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญคือ การออกเหรียญทองคำภายใต้ชื่อ ‘เทเธอร์โกลด์(XAUt)’ ซึ่งเปิดตัวตั้งแต่ปี 2020 โดยมีทองคำจริงที่ถูกเก็บรักษาไว้ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นตัวค้ำประกัน ล่าสุดในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา XAUt มีการออกเหรียญเพิ่มเติมมากถึง *275,000 ออนซ์* คิดเป็นมูลค่ากว่า *1,100 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 16,219 ล้านบาท)* บ่งชี้ถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
กลยุทธ์ของเทเธอร์ถือว่าเป็นมากกว่าแค่การป้องกันความเสี่ยงจากทองคำ แต่ยังสะท้อนความพยายามส่งเสริม *ความเชื่อมั่นในสเตเบิลคอยน์* รวมถึงผลักดันการ *เชื่อมโยงระหว่างสินทรัพย์ดิจิทัลกับทรัพย์สินจริง* ซึ่งอาจเป็นทิศทางใหม่ของโลกการเงินในยุคถัดไป
*ความคิดเห็น*: การที่เทเธอร์มีบทบาทระดับนี้ในตลาดทองคำ อาจเป็นตัวกระตุ้นให้บริษัทคริปโตฯ อื่น ๆ พิจารณาแนวทางการสะสมสินทรัพย์จริง เพื่อสนับสนุนมูลค่าของโครงการตนเอง และลดความผันผวนของเหรียญในระยะยาว
ความคิดเห็น 0