บริษัทดิจิทัลแอสเซทชื่อดังอย่างสเตรเทจี(Strategy) ซึ่งเป็น ‘ผู้ถือครองบิตคอยน์(BTC) รายใหญ่ที่สุดในโลก’ ได้เปิดเผยมาตรการเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดคริปโตที่อ่อนตัวลงและเสถียรภาพทางการเงินของบริษัท โดยเมื่อไม่นานมานี้ สเตรเทจีได้เปิดตัวแดชบอร์ดการให้ ‘อันดับความน่าเชื่อถือ’ ของบริษัท พร้อมยืนยันว่า บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 70 ปีภายใต้โครงสร้างปัจจุบัน
ตามรายงานจากเว็บไซต์ทางการ สเตรเทจีได้นำเสนอระบบประเมินเครดิตที่พัฒนาขึ้นใหม่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแม้ราคาบิตคอยน์จะคงที่ในระดับปัจจุบัน บริษัทก็ยังมีศักยภาพในการชำระหนี้และจ่ายปันผลอยู่ “ความสามารถทางการเงินไม่ได้ขึ้นอยู่เฉพาะการขยับขึ้นของราคาเหรียญ” เป็นคำกล่าวที่สะท้อนท่าทีของบริษัทในการต่อสู้กับความกังวลของนักลงทุน
หนึ่งในจุดเน้นที่สเตรเทจีนำเสนอ คือ ราคาซื้อเฉลี่ยของบิตคอยน์อยู่ที่ 74,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,088.6 ล้านบาท) และถึงแม้ราคาจะร่วงลงมาระดับดังกล่าว บริษัทยังมีสินทรัพย์ดิจิทัลมากกว่าพันธบัตรแปลงสภาพ (Convertible Debt) ถึง 5.9 เท่า ซึ่งช่วยสนับสนุนโครงสร้างเงินทุนให้มี ‘ความมั่นคง’ อย่างมาก นอกจากนี้ แม้บิตคอยน์จะตกลงเหลือเพียง 25,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 367.9 ล้านบาท) บริษัทก็ยังมีมูลค่าสินทรัพย์ที่สูงกว่าหนี้สินเป็นเท่าตัว
การประกาศดังกล่าวมีขึ้นในช่วงที่บริษัทจดทะเบียนที่ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล (DAT) หลายรายประสบปัญหาราคาหุ้นตก ขณะเดียวกัน ตลาดคริปโตก็กำลังเข้าสู่ช่วง ‘ขาลง’ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า ความผันผวนนี้อาจเร่งเร้าให้บางบริษัทจำเป็นต้องขายสินทรัพย์ออกมาเพิ่มเติม เพิ่มแรงกดดันด้านการขายให้มากขึ้นในตลาด
แม้สเตรเทจีจะมีกลยุทธ์ลงทุนเชิงรุกและถือครองบิตคอยน์ราว 210,000 เหรียญ ซึ่งถือเป็น ‘แต้มต่อ’ ในช่วงตลาดกระทิง แต่ก็มีบางเสียงเตือนว่า หากตลาดเข้าสู่ภาวะปรับฐาน ทิศทางดังกล่าวอาจกลายเป็นภาระทางการเงิน อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ย้ำอีกครั้งว่า การลงทุนของตนมี‘ความเสี่ยงต่อการด้อยค่าทางบัญชีต่ำ’ ในระยะยาว และมุ่งมั่นที่จะรักษาความเชื่อมั่นจากนักลงทุนในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง
*ความคิดเห็น: การเปิดเผยข้อมูลความสามารถชำระหนี้และสถานะการเงินอย่างโปร่งใสอาจกลายเป็นเทรนด์ใหม่สำหรับบริษัทที่มีการถือครองคริปโตจำนวนมาก ท่ามกลางความคาดหวังให้ผู้เล่นรายใหญ่สร้างมาตรฐาน ‘ความโปร่งใสทางการเงิน’ มากยิ่งขึ้นในยุคที่ตลาดกำลังผันผวน*
ความคิดเห็น 0