สวิตเซอร์แลนด์ประกาศเลื่อนการบังคับใช้มาตรการแลกเปลี่ยนข้อมูลบัญชีคริปโตกับหน่วยงานภาษีต่างประเทศแบบอัตโนมัติออกไปเป็นปี 2027 โดยแม้ว่ากฎหมายที่เกี่ยวข้องจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2026 แต่การเริ่มต้นการแลกเปลี่ยนข้อมูลจริงจะเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดในปีถัดไป
เมื่อวันที่ 3 ที่ผ่านมา (เวลาท้องถิ่น) รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์และสำนักงานการเงินนานาชาติของประเทศ (SIF) ยืนยันว่าจะเดินหน้าออกกฎหมายตามกรอบ ‘ระบบรายงานคริปโตแอสเซต’ หรือ *CARF* ซึ่งเป็นความพยายามในการเพิ่มความโปร่งใสทางภาษีระดับโลก แต่จะยังไม่เริ่มดำเนินการในทันที การเลื่อนครั้งนี้เป็นไปตามข้อตกลงร่วมระหว่างประเทศที่มีเป้าหมายในการป้องกันการเลี่ยงภาษีด้วยการเปิดเผยข้อมูลบัญชีคริปโตของผู้ถือครองให้แก่ต่างประเทศ
แหล่งข่าวระบุว่าการเลื่อนกำหนดดังกล่าวเกิดจากการล่าช้าในการพิจารณาว่าจะแลกเปลี่ยนข้อมูลกับประเทศใดบ้าง โดยทางการสวิตเซอร์แลนด์เปิดเผยว่า คณะกรรมการภาษีภายในประเทศยังไม่ได้ข้อสรุปในประเด็นนี้ ส่งผลให้การกำหนดขอบเขตและหลักเกณฑ์ของการแชร์ข้อมูลยังอยู่ระหว่างดำเนินการ
*CARF* เป็นมาตรฐานระดับโลกซึ่งได้รับการอนุมัติจากองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ในปี 2022 โดยมีวัตถุประสงค์ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีคริปโตระหว่างประเทศอย่างอัตโนมัติ เพื่อป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษีระหว่างประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ได้ประกาศเมื่อเดือนมิถุนายนว่าจะนำมาตรฐานนี้มาใช้ในระดับกฎหมายของประเทศโดยคาดว่าเริ่มต้นการแลกเปลี่ยนข้อมูลในปี 2027 อย่างไรก็ตาม แผนการนี้กลับต้องเผชิญความไม่แน่นอนอีกครั้งหลังการประกาศล่าสุด
ทางการยังเผยว่า ก่อนที่ *CARF* จะถูกใช้อย่างเต็มรูปแบบ จะมีการเสนอกฎหมายภาษีใหม่และมาตรการช่วงเปลี่ยนผ่านเพื่อช่วยให้บริษัทคริปโตในประเทศสามารถปรับตัวได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ สวิตเซอร์แลนด์จะดำเนินแผนการออกข้อกำหนดทางปฏิบัติอย่างเป็นขั้นตอนเพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนในอุตสาหกรรมภายในประเทศ
ตามรายงานของ OECD ขณะนี้มี 75 ประเทศที่ลงนามเข้าร่วมโครงการ *CARF* โดยสวิตเซอร์แลนด์ก็เป็นหนึ่งในนั้น อย่างไรก็ตาม ประเทศอย่างอาร์เจนตินา เอลซัลวาดอร์ อินเดีย และเวียดนามยังไม่ได้เข้าร่วม
การเลื่อนใช้มาตรการของสวิตเซอร์แลนด์สะท้อนให้เห็นว่ากระบวนการสร้างระบบภาษีระหว่างประเทศสำหรับคริปโตแอสเซตยังอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้น *CARF* อาจได้รับการยอมรับให้กลายเป็นมาตรฐานสากลในอนาคต แต่การนำไปใช้งานจริงจะขึ้นอยู่กับวิธีการดำเนินงานและการพิจารณาทางการเมืองของแต่ละประเทศเป็นหลัก
*ความคิดเห็น:* แม้การเลื่อนของสวิตเซอร์แลนด์จะช่วยให้บริษัทคริปโตมี ‘ระยะผ่อนผัน’ ในการปรับตัว แต่กระแสผลักดันให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลภาษีข้ามพรมแดนยังคงเดินหน้าต่อไป ผู้ที่ถือครองสินทรัพย์คริปโตในต่างประเทศควรเตรียมตัวรับมือกับระบบรายงานอัตโนมัติในอนาคต เพราะถ้ามาตรฐานนี้ถูกใช้ทั่วโลก ข้อมูลที่เกี่ยวกับ KYC และบัญชีในกระดานเทรดคริปโตจะกลายเป็นข้อมูลภาษีที่ถูกแชร์แบบอัตโนมัติในระดับเดียวกับระบบการเงินแบบดั้งเดิม
ความคิดเห็น 0