ไบแนนซ์ถอด 9 สเตเบิลคอยน์ออกจากตลาดยุโรป ขณะทรัมป์ประกาศเพิ่ม XRP และ SOL เป็นสินทรัพย์สำรอง
ไบแนนซ์ประกาศแผนถอดคู่เทรดของ 'สเตเบิลคอยน์' จำนวน 9 รายการออกจากตลาดยุโรป ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคมนี้ โดยอ้างอิงตามข้อกำหนดของกฎหมาย MiCA ที่มีผลบังคับใช้ในเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) การตัดสินใจครั้งนี้ส่งผลให้สกุลเงินดิจิทัลอย่าง 'เทเธอร์(USDT)' และ 'ได(DAI)' ถูกถอดจากแพลตฟอร์ม อย่างไรก็ตาม ผู้ถือสินทรัพย์เหล่านี้ยังสามารถใช้ Binance Convert เพื่อแปลงเป็น 'สเตเบิลคอยน์' อื่น ๆ ที่รองรับ หรือแปลงเป็นเงินยูโรได้ ไบแนนซ์ยืนยันว่าจะยังคงให้บริการ 'USDC' และ 'EURI' ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่สอดคล้องกับข้อกำหนด MiCA ขณะที่บริการฝาก-ถอนและเก็บรักษาเหรียญที่ถูกถอดออก จะยังคงให้บริการตามปกติ
ในอีกด้านหนึ่ง อุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลต้องเผชิญกับความปั่นป่วนครั้งใหญ่เมื่อ 'ประธานาธิบดีทรัมป์' ประกาศรวม 'XRP', 'โซลานา(SOL)' และ 'คาร์ดาโน(ADA)' เข้าสู่สถานะ 'สินทรัพย์สำรองทางยุทธศาสตร์' ของสหรัฐฯ ส่งผลให้ตลาดขานรับด้วยการทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นไม่นาน ทรัมป์ได้ปรับข้อความเพิ่มเติมว่า 'บิตคอยน์(BTC)' และ 'อีเธอเรียม(ETH)' จะถูกจัดอยู่ในสินทรัพย์สำคัญเช่นกัน
เหตุการณ์นี้ส่งผลให้ 'บิตคอยน์' มีสัดส่วนในตลาดลดลงจาก 55.4% เหลือเพียง 49.6% ขณะที่ราคาของ 'XRP' และ 'คาร์ดาโน' พุ่งขึ้นอย่างมหาศาล โดยปรับตัวสูงขึ้น 34.7% และ 60.3% ตามลำดับ ด้าน 'โซลานา' และ 'อีเธอเรียม' ก็แข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้น 25.5% และ 13.1% ตลาด 'อัลต์คอยน์' โดยรวมตอบสนองเชิงบวก ส่วน 'บิตคอยน์' แม้จะอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น แต่กลับเพิ่มขึ้นเพียง 10% และซื้อขายอยู่ที่ระดับ $94,220
ทรัมป์กล่าวว่า การบริหารของเขาจะมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมอุตสาหกรรมคริปโต หลังจากต้องเผชิญกับท่าทีที่เป็นปฏิปักษ์จากนโยบายของรัฐบาลไบเดน อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่ารัฐบาลสหรัฐฯ อาจต้องพิจารณาถึงผลกระทบในระยะยาวจากการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะในแง่ของนโยบายเศรษฐกิจและการเงิน
ความคิดเห็น 0