โทเคน WLFI ของโครงการเวิลด์ลิเบอร์ตีไฟแนนเชียล(WLFI) กลับมาเป็นที่จับตามองอีกครั้งหลังจากราคาฟื้นตัวขึ้น 8% ภายในสัปดาห์เดียว โดยมีความคาดหวังจากนักลงทุนว่าอาจเป็นจุดเริ่มต้นของ *แนวโน้มขาขึ้นรอบใหม่* ต่อไป ความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากข้อเสนอเกี่ยวกับการกระจาย *สเตเบิลคอยน์ USD1* และการที่ USD1 ได้รับการสนับสนุนจาก *ไบแนนซ์* อย่างเป็นทางการ ซึ่งอาจกลายเป็นแรงส่งสำคัญสู่การเติบโตที่ร้อนแรงในปี 2026
ราคา WLFI ที่อยู่ในช่วงขาลงตลอดเดือนที่ผ่านมาเริ่มฟื้นตัวตามข่าวที่ว่า USD1 ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์หลักของโครงการ ได้เข้าร่วมในโปรแกรม ‘Binance Earn’ อย่างเป็นทางการ ผู้ใช้งานสามารถฝากทรัพย์สินและรับดอกเบี้ยสูงสุดถึง *20% ต่อปี* โดยมีวงเงินสูงสุดที่ 50,000 USD1 ต่อผู้ใช้งาน หรือประมาณ 7.2 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นอุปสงค์จากนักลงทุนในตลาด
ทางโครงการยังเปิดเผยแผนการเดินหน้าขยายการใช้งาน USD1 อย่างต่อเนื่องผ่านความร่วมมือในโมเดลผลตอบแทนลักษณะเดียวกัน ด้วยการใช้ทรัพย์สินของตนเองสร้างความยั่งยืนให้กับระบบนิเวศ ส่งผลให้ชุมชน WLFI กำลังพิจารณาข้อเสนอการใช้ *5% ของสินทรัพย์ดิจิทัลสะสมทั้งหมด* เพื่อเป็นแรงจูงใจในโปรแกรมส่งเสริมการใช้งานของ USD1 ผ่านระบบลงคะแนนเสียงด้วยกลไก *การกำกับดูแล (Governance)*
ในด้านเทคนิค นักวิเคราะห์ชี้ว่า WLFI กำลังทดสอบแนวต้านด้านบนของ *รูปแบบสามเหลี่ยมสมมาตร* ซึ่งเป็นสัญญาณ *ขาขึ้นที่เป็นไปได้* โดยมีดัชนี RSI ดีดตัวจากจุดกึ่งกลาง แสดงถึงโมเมนตัมเชิงบวก ขณะที่ MACD ยังอยู่เหนือเส้นสัญญาณ บ่งชี้แรงซื้อยังมีอิทธิพล หากสามารถทะลุระดับแนวต้านปัจจุบันได้ ราคาของ WLFI อาจพุ่งขึ้นสู่ *0.245 ดอลลาร์* หรือประมาณ 354 บาท เทียบกับจุดปัจจุบันที่ 0.13 ดอลลาร์ (188 บาท) คิดเป็น *ศักยภาพการเติบโตถึง 70%*
นอกจากนี้ ระดับต้านสำคัญระยะกลางที่ควรจับตาคือราคาเดิมที่เคยทำไว้ในเดือนพฤศจิกายนบริเวณ *0.175 ดอลลาร์ (253 บาท)* ซึ่งอาจเป็นด่านต่อไปหากการใช้งาน USD1 ขยายตัวได้จริงในอนาคตอันใกล้
ขณะที่กระแส *มิ้มคอยน์ (Meme Coin)* ยังคงได้รับความสนใจอย่างล้นหลามในตลาด คอยน์ใหม่อย่าง *แม็กซี โดจ(Maxie Doge หรือ $MAXI)* กำลังถูกพูดถึงว่าอาจเป็น ‘ทายาทสายตรง’ ของกระแสโทเคนแนวขำขันอย่าง *โดจคอยน์(DOGE)* และ *ชิบะอินุ(SHIB)* โดยล่าสุดระดมทุนจากรอบพรีเซลได้ถึง *4.35 ล้านดอลลาร์* หรือประมาณ 62.8 ล้านบาท
แม็กซี โดจยังเปิดให้นักลงทุนที่เข้าร่วมก่อน สามารถสเตกโทเคนและรับผลตอบแทนสูงสุดถึง *71% ต่อปี* ซึ่งทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าอาจเป็นหนึ่งในผู้นำการวิ่งรอบใหม่ของกลุ่มมิ้มคอยน์ในปี 2026 หากแนวโน้มตลาดเป็นไปตามลักษณะการเคลื่อนไหวครั้งก่อนๆ ของ *ฟลอกกี้(FLOKI)* หรือ *บองก์(BONK)*
*ความคิดเห็น*: ตลาดกำลังเข้าสู่ช่วงทิศทางใหม่ที่น่าสนใจ โดย WLFI ผสานระหว่างการใช้งานจริงและแผนขยายระบบ ซึ่งต่างจากกระแสคอยน์ที่อิงกระแสบันเทิงล้วน อย่างไรก็ตาม ทั้งสองกลุ่มยังคงมีโอกาสเติบโตในทิศทางที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับทัศนคติของนักลงทุนในช่วงต่อไป
ความคิดเห็น 0