Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

โทเคน HYPE พุ่ง 8% ในสัปดาห์เดียว หลังไฮเปอร์ลิควิดครองตลาดฟิวเจอร์สดีไฟอีกครั้ง

โทเคน HYPE ของโครงการไฮเปอร์ลิควิด(Hyperliquid) กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนหลังจากราคาปรับตัวขึ้นเกือบ 8% ภายในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยความคาดหวังของตลาดเพิ่มสูงขึ้นหลังจากโครงการสามารถแซงหน้าคู่แข่งอย่างแอสเตอร์(Aster) และกลับมาครองตำแหน่งอันดับหนึ่งในตลาดสัญญาซื้อขายฟิวเจอร์สแบบถาวร(Perpetual Futures)

ตามข้อมูลจากแพลตฟอร์ม CoinMarketCap ณ เวลานี้ ไฮเปอร์ลิควิดครองสัดส่วนตลาดฟิวเจอร์สแบบถาวรอยู่ที่ 19.5% และมีปริมาณการซื้อขายภายใน 24 ชั่วโมงแตะระดับ 4.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 178,785 ล้านบาท) ขณะที่แอสเตอร์ลดลงต่ำกว่า 15% โดยปริมาณเทรดอยู่ราว 3.7 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 134,860 ล้านบาท) ซึ่งสะท้อนว่าความเป็นผู้นำในตลาดกำลังกลับมาอยู่ในมือของไฮเปอร์ลิควิดอีกครั้ง

ทั้งสองโครงการเป็นแพลตฟอร์มฟิวเจอร์สแบบกระจายศูนย์ที่มีการแข่งขันด้านเทคโนโลยีมาโดยตลอด โดยแอสเตอร์กำลังพัฒนาเชนบล็อกเป็นของตนเอง ในขณะที่ไฮเปอร์ลิควิดเลือกใช้กลยุทธ์จำกัดจำนวนโทเคนใหม่ เพื่อดึงดูดนักลงทุนเข้ามาในระบบ

ไฮเปอร์ลิควิดยังได้ดำเนินการเผาโทเคน HYPE มูลค่า 90 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,300 ล้านบาท) ผ่านโครงการ Hyperliquid Assistance Program ซึ่งใช้ค่าธรรมเนียมการเทรดบางส่วนมาซื้อคืนและเผาโทเคนเพื่อลดอุปทานหมุนเวียน กลยุทธ์นี้มีเป้าหมายในการรักษาและผลักดันมูลค่าโทเคนในตลาด

ข้อมูลจาก DeFi Llama แสดงให้เห็นว่าในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ไฮเปอร์ลิควิดสามารถสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมสูงถึง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,444 ล้านบาท) ซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตของการใช้งานจริงและความสามารถในการสร้างรายได้จากกิจกรรมเทรดของผู้ใช้งาน

จากแนวโน้มดังกล่าว ‘การเผาโทเคน’ และ ‘รายได้จากค่าธรรมเนียม’ กลายเป็นปัจจัยหลักในการส่งเสริมราคาโทเคน HYPE เนื่องจากอุปทานลดลงในขณะที่ความต้องการยังคงอยู่ในระดับสูงหรือมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ในด้านเทคนิค ข้อมูลจาก TradingView ระบุว่า กราฟราคาในกรอบ 4 ชั่วโมงแสดงให้เห็นว่า HYPE มีแนวโน้มเปลี่ยนทิศทางกลับเป็นขาขึ้น โดยราคาเคลื่อนไหวแตะระดับบนของช่องขาลง และอยู่ใกล้เส้นค่าเฉลี่ย EMA200 ซึ่งเป็นจุดที่บ่งชี้ถึง ‘โอกาสในการทะลุแนวต้าน’ ได้

ค่าดัชนี RSI ซึ่งใช้วัดแรงซื้อแรงขาย อยู่ที่ระดับ 54 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 50 ที่มักบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้น หากโทเคนสามารถทะลุกรอบราคาปัจจุบันไปได้ มีโอกาสเปิดทางให้เกิด ‘การวิ่งรอบใหม่’ โดยนักวิเคราะห์มองว่าราคาสามารถพุ่งขึ้นได้กว่า 55% ภายในระยะเวลาอันสั้น โดยมีเป้าหมายราคาอยู่ที่ 40 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 57,784 บาท)

ในเวลาเดียวกัน ตลาดยังเริ่มจับตามองโครงการน้องใหม่อย่างเปเปโนด(Pepenode) ซึ่งนำเสนอแนวคิด ‘ขุดเหมืองแบบเล่นเกม’ หรือโมเดล Mine-to-Earn (M2E) โดยเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ซื้อโทเคน $PEPENODE เพื่อสร้างและบริหารอุปกรณ์ขุดเหมืองภายในเซิร์ฟเวอร์จำลองแบบกระจายศูนย์ นอกจากนี้ยังเพิ่มกลไกรางวัลผ่านโทเคนโบนัสอย่างบองค์(BONK) และเฟิร์ตคอยน์(FARTCOIN) ให้กับผู้ใช้งานที่มีผลงานสูง พร้อมทั้งมีนโยบายเผาโทเคนที่ใช้ในระบบถึง 70% เพื่อลดจำนวนอุปทาน

โครงการเปเปโนดยังเปิดให้มีการซื้อโทเคนล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ทางการ โดยรองรับทั้ง USDT, อีเธอเรียม(ETH) และการชำระผ่านบัตรเครดิต ซึ่งเสริมแรงให้โมเดล ‘เกม+การลงทุน’ นี้ กลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ในกระแสดีไฟ(DiFi) ที่เน้น ‘การกระจายอำนาจ’ และ ‘การให้ผลตอบแทนแบบมีส่วนร่วม’ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของตลาดคริปโตในปัจจุบัน

‘ความคิดเห็น’: ด้วยรูปแบบธุรกิจและกลไกโทเคนสุดล้ำ การแข่งขันของสองโปรเจกต์ตัวหลักในตลาดฟิวเจอร์สดีไฟ อาจเป็นสัญญาณแรกของการเปลี่ยนผ่านแนวโน้มตลาด โดย HYPE ดูเหมือนจะตั้งหลักเราๆสำหรับระยะขาขึ้นในระยะสั้นถึงกลาง ส่วน Pepenode ก็กำลังชิงพื้นที่ในตลาดเกม+ขุด ซึ่งแม้ใหม่แต่ก็มาพร้อมไอเดียน่าจับตาอย่างยิ่ง

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1