บิตคอยน์(BTC) และ ริปเปิล(XRP) ร่วงหนัก ดัชนีความกลัวคริปโตแตะจุดต่ำสุดในรอบ 17 เดือน

บิตคอยน์(BTC) และ ริปเปิล(XRP) ปรับตัวลดลงอย่างมากในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ตลาดคริปโตเผชิญกับแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง โดยบิตคอยน์ร่วงลงแตะระดับ 80,000 ดอลลาร์ ขณะที่ริปเปิลลดลงไปที่ 2.08 ดอลลาร์ อันเป็นผลให้ ‘ดัชนีความกลัวและความโลภของคริปโต’ ตกไปอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน บ่งชี้ถึงความวิตกกังวลของนักลงทุนที่เพิ่มมากขึ้น

ในขณะเดียวกัน โครงการ ‘โซแลคซี’(Solaxy) กลับได้รับความสนใจสวนทางกับตลาดคริปโตโดยรวม ผู้เชี่ยวชาญบางรายระบุว่า โซแลคซีมีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดดหลังจากการเปิดขายรอบพรีเซลล์

ตลาดคริปโตยังคงเผชิญกับความผันผวนอย่างมาก แม้ว่าบิตคอยน์จะฟื้นตัวจากระดับ 80,000 ดอลลาร์ กลับมายืนที่ 82,900 ดอลลาร์ แต่ยอด ‘Open Interest’ ยังคงลดลง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงท่าทีระมัดระวังของนักลงทุน ส่วนริปเปิล แม้จะปรับตัวขึ้นมาที่ 2.20 ดอลลาร์ หลังจากร่วงลงช่วงสุดสัปดาห์ แต่นักลงทุนยังคงรอความชัดเจนในการกลับคืนสู่แนวโน้มขาขึ้น ด้านปริมาณการซื้อขายแบบสปอตเพิ่มขึ้น 122% บ่งชี้ถึงแรงซื้อที่เข้ามา แต่ตลาดโดยรวมยังคงไร้เสถียรภาพ

ดัชนี ‘ความกลัวและความโลภ’ ลดลงสู่ระดับ 20 ซึ่งอยู่ในโซน ‘ความกลัวขั้นสุด’ และถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว สะท้อนถึงภาวะการลงทุนที่ซบเซา อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางรายมองว่าตลาดอาจผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และมีแนวโน้มที่จะกลับมาเข้าสู่ช่วงฟื้นตัวในเร็ว ๆ นี้

ภาวะตลาดคริปโตในขณะนี้เกิดจากปัจจัยหลายอย่าง ทั้งจากเวที ‘การประชุมสุดยอดด้านคริปโต’ ในสหรัฐฯ ที่ไม่สามารถให้ความชัดเจนเกี่ยวกับแนวทางกำกับดูแล ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลง รวมถึงความตึงเครียดด้านการค้าทั่วโลกที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ล่าสุด ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดา เม็กซิโก และจีน ก่อให้เกิดปฏิกิริยาตอบโต้จากประเทศคู่ค้า สถานการณ์ดังกล่าวได้เพิ่มความไม่แน่นอนให้กับตลาดการเงินโดยรวม

นอกจากนี้ นโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ยังคงส่งผลกระทบต่อตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล แม้ว่านักลงทุนจะคาดหวังถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม แต่โอกาสที่เฟดจะเคลื่อนไหวในระยะสั้นยังดูไม่แน่นอน ตลาดจึงเข้าสู่โหมดรอดูท่าที

ท่ามกลางแนวโน้มตลาดที่ผันผวน โครงการโซแลคซีกลับเดินหน้าอย่างแข็งแกร่ง โดยเป็นโปรเจกต์ Layer-2 ในเครือข่ายของโซลานา(SOL) ซึ่งได้รับเงินลงทุนจากรอบพรีเซลล์แล้วกว่า 25.7 ล้านดอลลาร์ (ราว 375 ล้านบาท) สะท้อนถึงความสนใจจากทั้งนักลงทุนรายย่อยและสถาบัน บ่งชี้ว่าผู้เล่นในตลาดบางส่วนเริ่มเปลี่ยนไปถือครองโปรเจกต์ที่มีศักยภาพเติบโตสูงแทนบิตคอยน์และริปเปิลที่กำลังเผชิญกับสภาวะตลาดขาลง

นักวิเคราะห์จาก 99Bitcoins อย่างเจย์คอบ เบอร์รี แสดงความเห็นว่า โซแลคซีอาจเป็นโปรเจกต์ที่มี ‘ศักยภาพการเติบโตสูง’ โดยชี้ให้เห็นถึงโซลูชันที่เข้ามาปรับปรุงประสิทธิภาพของเครือข่ายโซลานา ทั้งความเร็วและค่าธรรมเนียมที่ต่ำ นอกจากนี้ ระบบ ‘staking’ ที่ให้ผลตอบแทนสูงก็เป็นอีกปัจจัยที่ดึงดูดนักลงทุนเข้ามาเพิ่มขึ้น

บัญชี X (เดิมคือทวิตเตอร์) ของโซแลคซี กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีผู้ติดตามมากกว่า 72,000 ราย สะท้อนถึงความสนใจในชุมชนคริปโต สำหรับรอบพรีเซลล์ นักลงทุนสามารถซื้อโทเค็น SOLX ได้ที่ราคา 0.001658 ดอลลาร์ และราคาจะปรับขึ้นในแต่ละรอบ ทำให้ผู้ที่เข้าซื้อในช่วงต้นมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น

แม้ว่าตลาดคริปโตจะยังคงอยู่ในภาวะผันผวน แต่โซแลคซีกลับสามารถสร้างโมเมนตัมเชิงบวกได้อย่างต่อเนื่อง หากการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญเป็นจริง โซแลคซีอาจกลายเป็นหนึ่งในโครงการที่โดดเด่นในช่วงตลาดขาลงครั้งนี้