บิตคอยน์(BTC) ร่วงต่ำกว่า 80,000 ดอลลาร์ จุดชนวนถกเถียงเรื่องความเป็นอิสระจากตลาดหุ้น

การถกเถียงเกี่ยวกับความเป็นอิสระของบิตคอยน์(BTC) จากตลาดการเงินดั้งเดิมกลับมาอีกครั้ง หลังจากที่ราคาของมันร่วงต่ำกว่า 80,000 ดอลลาร์ สอดคล้องกับการปรับฐานของดัชนี S&P 500 ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างตลาดคริปโตเคอร์เรนซีกับตลาดหุ้นอีกครั้ง

เทรดเดอร์ชื่อดัง ‘CrediBULL Crypto’ ระบุว่าความกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์นี้อาจถูกพูดเกินจริงไป เขามองว่าการปรับฐานของ S&P 500 เป็นเพียงส่วนหนึ่งของวัฏจักรปกติ และไม่ได้ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มขาขึ้นระยะยาวของบิตคอยน์ นอกจากนี้ เขายังชี้ให้เห็นว่าบิตคอยน์เคยแสดงพฤติกรรมที่เป็นอิสระจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในอดีต ซึ่งทำให้นักลงทุนควรให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคมากกว่าการเคลื่อนไหวระยะสั้นของตลาด

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางกลุ่มยังคงมองตลาดด้วยความระมัดระวัง เมื่อราคาของบิตคอยน์ลดลงต่ำกว่า 80,000 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์ชื่อดังอย่าง ‘ปีเตอร์ แบรนด์(Peter Brandt)’ ได้เตือนถึงความเป็นไปได้ของรูปแบบกราฟ ‘Double Top’ ซึ่งแสดงถึงแนวโน้มขาลง และบิตคอยน์จะต้องทะลุ 90,000 ดอลลาร์เพื่อกลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น ด้าน ‘อาเธอร์ เฮย์ส(Arthur Hayes)’ ผู้ร่วมก่อตั้ง BitMEX คาดการณ์ว่า บิตคอยน์อาจลดลงไปที่ 78,000 ดอลลาร์ และหากเจาะแนวรับนี้ ราคาสามารถลดลงไปถึง 75,000 ดอลลาร์ได้อีก

แม้ว่าบิตคอยน์จะร่วงลง 25% จากจุดสูงสุดที่ 108,786 ดอลลาร์เมื่อต้นปี แต่ในช่วงปีที่ผ่านมามันยังคงให้ผลตอบแทนบวกอยู่ที่ 18.6% ขณะเดียวกัน ดัชนี "ความกลัวและความโลภ" (Fear and Greed Index) ซึ่งเคยแตะระดับ 92 (ภาวะโลภสุดขีด) ลดลงมาอยู่ที่ 10 (ภาวะกลัวสุดขีด) แสดงให้เห็นถึงบรรยากาศความไม่มั่นคงของตลาด

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้นักลงทุนนำความผันผวนนี้มาวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบ CrediBULL Crypto กล่าวว่า “หากนักลงทุนเตรียมแผนสำรองสำหรับแต่ละสถานการณ์ พวกเขาจะสามารถลดความเสี่ยงในการขาดทุนได้” พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงความสำคัญของการลงทุนโดยใช้มุมมองระยะยาวมากกว่าการไล่ตามความผันผวนในระยะสั้น