ตลาดคริปโตเผชิญแรงกดดันหนัก! บิตคอยน์(BTC) เสี่ยงร่วงแตะ 70,000 ดอลลาร์

ตลาดคริปโตยังคงเผชิญกับความผันผวนสูง โดยราคาของ ‘บิตคอยน์(BTC)’, ‘อีเธอเรียม(ETH)’, และ ‘ริปเปิล(XRP)’ กำลังได้รับความสนใจเป็นพิเศษ สถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองหลังการเข้ารับตำแหน่งของ ประธานาธิบดีทรัมป์ ทำให้มูลค่าตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลลดลงกว่า 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่ความตึงเครียดด้านนโยบายเศรษฐกิจและสงครามการค้าที่ยังคงดำเนินอยู่ ส่งผลให้แรงเทขายยังคงมีอยู่ แม้สหรัฐฯ จะประกาศแผนยุทธศาสตร์สะสมบิตคอยน์ก็ตาม

ข้อมูลตลาดล่าสุดแสดงให้เห็นว่า นักลงทุนสถาบันเริ่มลดความสนใจในตลาดคริปโต โดยเฉพาะกองทุน ETF บิตคอยน์ แบบสปอตของสหรัฐฯ ที่มีเงินทุนไหลออกไปกว่า 4.3 พันล้านดอลลาร์ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา สถานการณ์นี้ทำให้เทรดเดอร์ต้องจับตาดูแนวรับสำคัญ รวมถึงความเปลี่ยนแปลงของนโยบายการเงินในอนาคต

ราคาบิตคอยน์(BTC) ลดลง 14% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ปัจจุบันกำลังทดสอบแนวรับใกล้ 78,000 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์ระบุว่า BTC กำลังสร้างรูปแบบ ‘ธงขาลง’ และอาจร่วงลงสู่เป้าหมายถัดไปที่ 73,700 ดอลลาร์ อาเธอร์ เฮย์ส(Arthur Hayes) ผู้ร่วมก่อตั้ง BitMEX กล่าวว่า “โอกาสที่ BTC จะปรับฐานสู่ 70,000 ดอลลาร์นั้นมีสูงมาก และตลาดคริปโตอาจเข้าสู่ช่วงขาลงไปจนกว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารกลางทั่วโลกจะกลับมาใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินอีกครั้ง”

ด้านอีเธอเรียม(ETH) ยังมีแนวโน้มขาลง โดยล่าสุดได้ทะลุแนวรับสำคัญระหว่าง 2,100-2,200 ดอลลาร์ไปแล้ว หากราคาหลุดต่ำกว่า 1,760 ดอลลาร์ อาจเกิดแรงเทขายขนาดใหญ่ เบนจามิน โคเวน(Benjamin Cowen) นักวิเคราะห์คริปโต ให้ความเห็นว่า “ตราบใดที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังใช้มาตรการคุมเข้มนโยบายการเงิน ราคาของ ETH อาจมีปัญหาในการฟื้นตัว”

ริปเปิล(XRP) ก็ยังอยู่ในแนวโน้มขาลงตั้งแต่เดือนธันวาคม โดยกำลังสร้างรูปแบบ ‘เฮดแอนด์โชลเดอร์’ ซึ่งปัจจุบัน XRP พยายามรักษาระดับแนวรับที่ 2 ดอลลาร์ หากไม่สามารถยืนได้ อาจร่วงลงต่อไปถึง 1.5 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์ระบุว่า “การคงระดับ 2 ดอลลาร์ถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อแนวโน้มขาขึ้นของ XRP ในระยะยาว”

โดยรวมแล้ว ตลาดคริปโตยังคงถูกกดดันจากความไม่แน่นอนทางการเมืองและปัจจัยทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่ โดยปัจจัยเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของราคาคริปโตในช่วงต่อไป