ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศให้บิตคอยน์(BTC) เป็น ‘สินทรัพย์สำรองเชิงกลยุทธ์’ อย่างเป็นทางการ ดึงดูดความสนใจจากอุตสาหกรรมคริปโตทั่วโลก โดยเมื่อต้นเดือนนี้ ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งบริหารที่รวมถึง ‘โครงการสำรองสินทรัพย์ดิจิทัล’ ซึ่งเปิดทางให้รัฐบาลสหรัฐถือครองบิตคอยน์ในระดับประเทศ
แผนสำรองบิตคอยน์ฉบับนี้มีเป้าหมายในการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลที่รัฐบาลได้รับผ่านกระบวนการยึดทรัพย์จากอาชญากรรมและคดีแพ่ง นอกจากนี้ ยังมีโครงการสำรองสินทรัพย์ดิจิทัลที่ครอบคลุมถึงอัลต์คอยน์หลายรายการอีกด้วย
ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมวิเคราะห์ว่ามาตรการดังกล่าวไม่ได้เป็นเพียงแค่ท่าทีที่เป็นมิตรต่อคริปโต แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางการเงินและภูมิรัฐศาสตร์ อเล็กซ์ เชฟเชนโก(Alex Shevchenko) ซีอีโอของออโรรา(Aurora) ให้ความเห็นว่า “บิตคอยน์ไม่ได้เป็นเพียงแค่สินทรัพย์สำหรับองค์กรอีกต่อไป แต่ตอนนี้รัฐบาลก็เริ่มยอมรับในฐานะสินทรัพย์ทางการเงินเชิงยุทธศาสตร์ สหรัฐกำลังก้าวนำก่อน และประเทศอื่น ๆ จะต้องมีการตอบสนองแน่นอน”
อย่างไรก็ตาม ยังมีความคิดเห็นที่ไม่เห็นด้วย ปีเตอร์ ชิฟ(Peter Schiff) ระบุว่า “การตัดสินใจนี้ได้รับอิทธิพลจากแรงกดดันทางการเมืองและผลประโยชน์ทับซ้อนภายในรัฐบาล สุดท้ายรัฐอาจแค่ต้องการใช้บิตคอยน์ที่มีอยู่แล้ว มากกว่าจะเป็นการเข้ามามีบทบาทใหม่ในตลาด”
แม้จะเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบในระยะยาวของคำสั่งบริหารฉบับนี้ แต่อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลทรัมป์กำลังเคลื่อนไหวเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับอุตสาหกรรมคริปโต ซึ่งอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอนาคต
ความคิดเห็น 0