ราคาของ ไพเน็ตเวิร์ก(PI) กำลังเผชิญกับภาวะ ‘ปรับฐาน’ อย่างชัดเจนหลังจากร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ตลาดจับตามองปัจจัยที่อาจเป็นตัวแปรสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น ‘การเลื่อนลิสต์บนกระดานเทรดชั้นนำ’ หรือ ‘การปิดรับยืนยันตัวตน (KYC)’ ซึ่งมีแนวโน้มจะสร้างแรงกดดันต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ หลังจากที่ ไพเน็ตเวิร์ก เปิดตัวเมนเน็ตอย่างเป็นทางการ ราคาของ PI ดีดตัวขึ้นทะลุ 1.80 ดอลลาร์ ซึ่งดูเหมือนเป็นสัญญาณเชิงบวก อย่างไรก็ตาม เพียงวันถัดมา เหรียญ PI กลับดิ่งลงสู่ระดับ 0.65 ดอลลาร์ ก่อนจะฟื้นตัวขึ้นมาแตะระดับสูงสุดที่ 3 ดอลลาร์ในช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา กระนั้น โมเมนตัมขาขึ้นไม่ได้อยู่ยาวนานนัก เพราะล่าสุด PI กลับมาซื้อขายที่ระดับ 1.17 ดอลลาร์ ลดลงราว 16% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
‘การปิดรับยืนยันตัวตน (KYC)’ กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ฉุดรั้งราคา ทีมพัฒนาโครงการได้กำหนดเส้นตาย KYC ไว้ที่ 14 มีนาคม พร้อมกับแจ้งเตือนผู้ใช้งานว่า หากพลาดกำหนดเวลาดังกล่าว อาจทำให้เหรียญที่ขุดไว้หายไปส่วนใหญ่ นั่นทำให้นักลงทุนเริ่มกังวลและเร่งเทขาย ส่งผลให้ราคาเกิดแรงกดดัน
อีกหนึ่งแรงเสียดทานสำคัญคือนโยบายของกระดานเทรดชั้นนำอย่าง ไบแนนซ์(Binance) ซึ่งแม้จะมีการเปิดโหวตจากชุมชน โดยมีเสียงสนับสนุนการลิสต์มากกว่า 86% ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการลิสต์อย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ แพลตฟอร์มอื่นอย่าง คอยน์เบส(Coinbase) และ คราเคน(Kraken) ต่างก็ยังไม่มีท่าทีชัดเจนเกี่ยวกับการนำ PI เข้าเป็นสินทรัพย์ที่ซื้อขายได้ ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของนักลงทุน
ไม่เพียงเท่านั้น เบน โจว ซีอีโอของ ไบบิท(Bybit) ได้ให้ความเห็นล่าสุดว่า ไพเน็ตเวิร์ก เป็น ‘โครงการหลอกลวง’ พร้อมยืนยันว่าไม่มีแผนจะลิสต์ PI บนแพลตฟอร์มของตน ซึ่งยิ่งทำให้ความเชื่อมั่นในเหรียญนี้ลดน้อยลงไปอีก
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางส่วนยังคงเชื่อมั่นว่า PI อาจมีโอกาสกลับตัวเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น ผู้ใช้ทวิตเตอร์(X) ที่มีชื่อว่า ‘Coinvo’ ระบุว่า ตลาดหมีในขณะนี้อาจเป็นเพียงช่วงพักตัว ก่อนที่แนวโน้มกระทิงจะกลับมาอีกรอบ อีกทั้งยังมีนักลงทุนบางคนคาดการณ์ว่า หากราคา PI ลงแตะ 1 ดอลลาร์เมื่อไหร่ จุดเริ่มต้นของการฟื้นตัวอาจมาถึง
สำหรับนักวิเคราะห์บางราย พวกเขามองว่า หากราคาปรับลดลงไปแตะ 0.60 ดอลลาร์ อาจเป็น ‘โอกาสเข้าซื้อ’ โดยเฉพาะในระยะยาว แต่นอกจากเทคนิคอลที่ต้องพิจารณาแล้ว ปัจจัยสำคัญอย่าง ‘การลิสต์ของกระดานเทรดหลัก’ ‘นโยบายของทีมพัฒนา’ และ ‘สภาวะตลาด’ ยังคงเป็นจุดตัดสินทิศทางของเหรียญ PI ในอนาคต
ความคิดเห็น 0