ชุมชนอีเธอเรียม(ETH) ถกเถียงแนวคิด ‘เนทีฟโรลอัพ’ เสริมความปลอดภัยให้เลเยอร์ 2

ชุมชนของ อีเธอเรียม(ETH) กำลังถกเถียงกันอย่างเข้มข้นเกี่ยวกับแนวคิด ‘เนทีฟโรลอัพ(Native Rollups)’ ซึ่งเป็นวิธีการใหม่ที่อาจช่วยให้เครือข่ายเลเยอร์ 2 (L2) มีความปลอดภัยในระดับเดียวกับอีเธอเรียมเอง จัสติน เดรค(Justin Drake) นักวิจัยจากมูลนิธิอีเธอเรียมกล่าวว่า หากนำแนวทางนี้มาใช้ จะช่วยให้ L2 ได้รับความปลอดภัยจากเลเยอร์พื้นฐานของอีเธอเรียมโดยตรง

โปรเจกต์ L2 ชั้นนำ เช่น ออปติมิซึม(Optimism) และ เบส(Base) กำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการนำเนทีฟโรลอัพมาใช้ ปัจจุบัน L2 อาศัยเทคนิคโรลอัพสองประเภท ได้แก่ ‘ออปติมิสติกโรลอัพ(Optimistic Rollup)’ และ ‘ซีเคโรลอัพ(ZK-Rollup)’ ที่ต้องใช้กลไกการตรวจสอบที่ซับซ้อน เช่น ระบบ ‘การพิสูจน์การฉ้อโกง’ สำหรับออปติมิสติกโรลอัพ และ ‘การพิสูจน์ด้วยซีโร่-นอเลจ’ สำหรับซีเคโรลอัพ ขณะที่แนวคิดของเนทีฟโรลอัพคือการโยกย้ายภาระการตรวจสอบนี้ไปยังเลเยอร์ 1 โดยตรง ให้ L2 ทำหน้าที่แค่ส่งรายการธุรกรรมแทน

ข้อได้เปรียบที่สำคัญของแนวทางนี้คือ L2 ไม่จำเป็นต้องสร้างระบบความปลอดภัยของตัวเอง แต่สามารถใช้ประโยชน์จากระดับความปลอดภัยของอีเธอเรียมโดยตรง อเล็กซ์ ฮุค(Alex Hook) นักวิจัยจาก 2077 Collective กล่าวว่า "เนทีฟโรลอัพช่วยลดความเสี่ยงในการรั่วไหลของสินทรัพย์ และลดการพึ่งพาคณะกรรมการความปลอดภัย(Security Council) ซึ่งช่วยเพิ่มระดับของการกระจายอำนาจได้"

อย่างไรก็ตาม ยังมีอุปสรรคที่ต้องแก้ไข เนื่องจากเนทีฟโรลอัพจำเป็นต้องดำเนินการตรวจสอบธุรกรรมที่ระดับโหนดของอีเธอเรียมเอง จึงอาจเพิ่มภาระให้กับเครือข่าย ออปติมิสติกโรลอัพในปัจจุบันใช้เวลา 7 วันในการตรวจสอบธุรกรรมผ่านระบบ ‘การพิสูจน์การฉ้อโกง’ ส่วนซีเคโรลอัพถึงแม้จะมีความเร็วสูง แต่ก็มาพร้อมกับต้นทุนการประมวลผลที่สูง เดรคกล่าวว่า "ในเวอร์ชันแรกเนทีฟโรลอัพอาจยังไม่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้เต็มที่ แต่ในระยะยาวมีแผนจะเพิ่มการพิสูจน์แบบ ZK เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ"

ขณะนี้แนวทางเนทีฟโรลอัพยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และจะยังไม่ถูกผนวกรวมเข้ากับการอัปเดตเครือข่ายในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น ‘แพคทรา(Pectra) ฮาร์ดฟอร์ค’ หรือ ‘ฟูซากะ(Fusaka) ฮาร์ดฟอร์ค’ อย่างเร็วที่สุดอาจมีการทดสอบใน ‘แกลมสเตอร์ดัม(Glamsterdam) ฮาร์ดฟอร์ค’ ภายใน 18 เดือนข้างหน้า เดรคสรุปว่า "อีเธอเรียมกำลังมุ่งหน้าไปสู่แนวทางที่ขับเคลื่อนด้วยโรลอัพ และเนทีฟโรลอัพอาจกลายเป็นโซลูชันหลักในอนาคต"