รัฐบาลสหรัฐอาจบันทึกปริมาณทองคำสำรองบนบล็อกเชน ซึ่งอาจส่งผลดีต่อบิตคอยน์(BTC)
เมื่อวันที่ 21 ผู้เชี่ยวชาญจากนิวยอร์กดิจิทัลอินเวสต์เมนท์กรุ๊ป(NYDIG) อย่างเกร็ก ชิโปลลาโร(Greg Cipolaro) เปิดเผยในรายงานว่า ‘แม้บิตคอยน์และทองคำจะเป็นสินทรัพย์ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่การนำทองคำมาโทเคไนซ์อาจเป็นประโยชน์ต่อบิตคอยน์ได้’
ชิโปลลาโรอธิบายว่า ‘บล็อกเชนมีข้อจำกัดในการส่งข้อมูลโดยเนื้อแท้ เช่น เครือข่ายบิตคอยน์เองยังไม่สามารถทราบราคาปัจจุบันของตัวมันเองได้’ อย่างไรก็ตาม การติดตามปริมาณทองคำบนบล็อกเชนอาจช่วยเพิ่มความโปร่งใสและปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบบัญชี แม้จะยังต้องพึ่งพาหน่วยงานกลาง ซึ่งเป็นข้อแตกต่างสำคัญจากแนวคิดไร้ศูนย์กลางของบิตคอยน์
แนวคิดนี้ได้รับความสนใจหลังจากบุคคลในรัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์และอีลอน มัสก์(Elon Musk) เสนอให้บันทึกปริมาณทองคำสำรองและการใช้จ่ายของรัฐบาลบนบล็อกเชน ทั้งนี้ ชิโปลลาโรเห็นว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่ได้เป็นการแข่งขันโดยตรงกับตลาดคริปโตเคอเรนซี แต่น่าจะช่วยเพิ่มการรับรู้เกี่ยวกับบิตคอยน์และนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีในท้ายที่สุด
ในอีกด้านหนึ่ง แรนด์ พอล(Rand Paul) วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกัน กำลังเรียกร้องให้มีการตรวจสอบปริมาณทองคำสำรองของสหรัฐอย่างอิสระ หลังจากมีข้อกังขาเกี่ยวกับทองคำที่จัดเก็บในฟอร์ต น็อกซ์(Fort Knox) ยาวนานหลายทศวรรษ ประธานาธิบดีทรัมป์และมัสก์ต่างสนับสนุนให้มีการตรวจสอบดังกล่าว
ทั้งนี้ ฟอร์ต น็อกซ์เคยได้รับการเยี่ยมชมอย่างเป็นทางการครั้งสุดท้ายโดยสตีเวน มนูชิน(Steven Mnuchin) อดีตรัฐมนตรีคลังของทรัมป์ ในปี 2017 และก่อนหน้านั้นย้อนกลับไปถึงปี 1974 แม้ว่ากระทรวงการคลังจะเผยแพร่รายงานการตรวจสอบปริมาณทองคำเป็นรายเดือน แต่กระแสเรียกร้องให้มีการตรวจสอบอิสระยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ความคิดเห็น 0