ตลาดคริปโตยังคงเต็มไปด้วยเหตุการณ์ที่น่าจับตามอง หลังจากที่มีมคอยน์ ‘Hawk Tuah’ พังทลายลง ฮัลลี เวลช์ ซึ่งก่อนหน้านี้ยังคงเงียบมาตลอด ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ หน่วยงานการเงินของญี่ปุ่นได้เรียกร้องให้ลบแอปพลิเคชันของเว็บเทรดคริปโตที่ไม่ได้จดทะเบียน และยูทาห์อาจกลายเป็นรัฐแรกของสหรัฐฯ ที่นำทุนสำรองบิตคอยน์(BTC) มาใช้ ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมาก
ฮัลลี เวลช์ เปิดเผยระหว่างการสัมภาษณ์กับเฟซแบงค์ส พอดแคสเตอร์ชื่อดังว่า ตัวเธอเองไม่ได้กระตือรือร้นที่จะเปิดตัวมีมคอยน์ ‘HAWK’ แต่ถูกทีมพัฒนาชักชวนให้เข้าร่วม โดยทีมงานอ้างว่ามีเป้าหมายระยะยาว ทั้งยังให้คำมั่นว่าส่วนหนึ่งของกำไรจะถูกบริจาคให้แก่องค์กรการกุศล อย่างไรก็ตาม ความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น คริสเตียน บาร์กเกอร์ ทนายความของเวลช์ กล่าวว่า ทีมพัฒนาและผู้ดูแลบัญชีได้หลอกลวงเธอ และขณะนี้ผู้พัฒนาเองยังคงควบคุมเหรียญอยู่ถึง 80% ของอุปทานทั้งหมด
ด้านญี่ปุ่น สำนักงานบริการทางการเงิน(FSA) ได้ขอความร่วมมือจากแอปเปิลและกูเกิลในการสกัดกั้นการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของเว็บเทรดคริปโตที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งรวมถึงไบบิท(Bybit), คูคอยน์(KuCoin) และบิตเก็ต(Bitget) รวมทั้งหมด 5 แพลตฟอร์ม รายงานระบุว่า แอปเปิลได้ทำการลบแอปเหล่านี้ออกจากแอปสโตร์ของญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์แล้ว ญี่ปุ่นยังคงใช้ท่าทีที่เข้มงวดต่อกฎระเบียบคริปโต และเมื่อไม่นานมานี้ หน่วยงานด้านการเงินได้ปฏิเสธแนวคิดการเปิดตัวกองทุนบิตคอยน์ ETF
ที่สหรัฐอเมริกา รัฐยูทาห์กำลังเป็นที่จับตามอง หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรของรัฐได้ส่งร่างกฎหมาย HB 230 ไปยังวุฒิสภา หากผ่านสภาสูง ยูทาห์จะกลายเป็นรัฐแรกของอเมริกาที่ถือครองทุนสำรองบิตคอยน์ ตามข้อกำหนดของร่างกฎหมาย กระทรวงการคลังของรัฐสามารถจัดสรรเงินทุนสาธารณะสูงสุด 5% ไปยังบิตคอยน์และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ กฎหมายดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการเศรษฐกิจของสภาด้วยคะแนนเสียง 8 ต่อ 1 และกำลังเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของวุฒิสภา ก่อนตัดสินขั้นสุดท้ายโดยผู้ว่าการรัฐ
นอกจากยูทาห์ รัฐแอริโซนายังอยู่ระหว่างการพิจารณากฎหมายที่คล้ายกัน ปัจจุบัน 14 รัฐในสหรัฐฯ ได้เสนอร่างกฎหมายที่อนุญาตให้รัฐลงทุนในคริปโต กระแสนี้สะท้อนให้เห็นถึงการยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลในระดับรัฐ ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการนำบิตคอยน์มาใช้ในภาครัฐมากขึ้น
ความคิดเห็น 0