ราคาของริปเปิล(XRP) ร่วงลงมากกว่า 5% ท่ามกลางกระแสตลาดคริปโตที่อยู่ในภาวะซบเซา สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนถึงทิศทางในอนาคต โดยนอกจาก XRP แล้ว เหรียญหลักอย่างบิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH) และโดชคอยน์(DOGE) ต่างก็เผชิญแรงขายเช่นเดียวกัน โดยราคาบิตคอยน์กำลังเข้าใกล้ระดับแนวรับสำคัญที่ 85,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.24 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญที่กดดันตลาดคือมาตรการภาษีใหม่ล่าสุดของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งรวมถึงการเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ นโยบายดังกล่าวสร้างความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทานระดับโลก และส่งผลลบทั้งในตลาดการเงินดั้งเดิมและในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี โดย *ความกลัวภาวะเศรษฐกิจถดถอย* ที่สะท้อนจากตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุด รวมถึงสภาพคล่องที่ตึงตัว ยิ่งซ้ำเติมแรงกดดันในตลาด
สำหรับแนวโน้มของ XRP มีความเห็นที่หลากหลายจากนักวิเคราะห์ บางรายมองว่าโอกาสที่ XRP จะพุ่งสู่ระดับ 10 ดอลลาร์ หรือประมาณ 14,600 บาท ยังคงเป็นไปได้ แม้จะมีความไม่แน่นอนอยู่มาก โดยแรงผลักดันสำคัญอาจอยู่ที่ข่าวการอนุมัติ XRP ETF ที่นักลงทุนคาดหวังว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้
เอวาน อัลโด(Evan Aldo) นักวิเคราะห์คริปโต มองว่ากราฟราคาของ XRP มีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ โดยระบุว่าอาจมีโอกาสเด้งกลับในระยะสั้นไปที่ระดับ 5.83 ดอลลาร์ หรือประมาณ 8,500 บาท อย่างไรก็ตาม เขาไม่เชื่อว่าราคา XRP จะสามารถทะลุ 6 ดอลลาร์ หรือ 8,760 บาท ได้ภายในปีนี้ และมองว่าการไปถึง 10 ดอลลาร์น่าจะเป็นการคาดการณ์ที่ ‘มองโลกในแง่ดีเกินไป’
ในกรณีที่ XRP สามารถทะลุแนวต้าน 3.30 ดอลลาร์ หรือราว 4,820 บาท ได้สำเร็จ เขาคาดว่าราคาจะเคลื่อนตัวสู่เป้าหมายถัดไปที่แถว 5 ดอลลาร์หรือประมาณ 7,300 บาท โดยพิจารณาจากรูปแบบที่ XRP เคยแสดงให้เห็นในอดีต เช่น การแกว่งตัวในกรอบแคบก่อนเกิดการพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน XRP ซื้อขายอยู่ที่ระดับ 2.14 ดอลลาร์ หรือประมาณ 3,120 บาท หลังดิ่งลงมากกว่า 5%
ในระยะต่อไป ทิศทางของ XRP จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งสภาพคล่องในตลาด การคลี่คลายของนโยบายเศรษฐกิจ และตัวชี้วัดทางมหภาค หากการอนุมัติ ETF และความคาดหวังต่อกฎเกณฑ์ทั่วโลกเริ่มเป็นรูปธรรมมากขึ้น ความหวังในการฟื้นตัวของ XRP ในระยะกลางถึงยาวยังคงเป็นไปได้ ความคิดเห็น
ความคิดเห็น 0