‘อัสเทอรัส(Astherus)’ โครงการแพลตฟอร์มด้านผลิตภัณฑ์อนุพันธ์แบบกระจายศูนย์ ได้ประกาศ *รีแบรนด์* ตัวเองภายใต้ชื่อใหม่ว่า ‘อัสเทอร์(Aster)’ พร้อมกลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้งด้วย *โทเคน* ใหม่อย่าง ‘AST’ โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นกลยุทธ์เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำในตลาด *ดีไฟ(DeFi)* สำหรับ *ดีเอ็กซ์(DEX)* ที่รองรับการซื้อขายแบบ *เพอร์เพ็ตชวล(Perpetual)* pantip ทั้งนี้ อัสเทอร์ถือเป็นการรวมสองแพลตฟอร์มเดิมเข้าด้วยกัน คือ อัสเทอรัสและ ‘เอพีเอ็กซ์(APX)’ ซึ่งเคยมีปริมาณการซื้อขายรวมกว่า 258,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 377 ล้านล้านวอน)
เพื่อยกระดับ *ประสบการณ์ผู้ใช้* อัสเทอร์ได้เปิดตัวโหมดการเทรดใหม่ 2 รูปแบบ ได้แก่ ‘โหมดธรรมดา (Simple Mode)’ ที่เน้นระบบคลิกเดียวแบบออนเชน และป้องกัน MEV (Maximum Extractable Value) ส่วน ‘โหมดโปร(Pro Mode)’ จำลองประสบการณ์จากตลาดแบบรวมศูนย์ด้วยระบบ *ออร์เดอร์บุ๊ก* ที่มีจุดเด่นคือ *สภาพคล่องสูง* และค่าธรรมเนียมต่ำ โดยคิดอัตราเมกเกอร์เพียง 0.01% และเทคเกอร์ 0.035%
*ดัสต์(Dust)* ผู้พัฒนาและผู้มีส่วนสำคัญต่อโครงการ ย้ำว่า “การรีแบรนด์ครั้งนี้เป็นหัวใจของกลยุทธ์ในการยึดหัวหาดตลาดอนุพันธ์ฝั่งดีไฟ” พร้อมเผยว่าการสนับสนุนจาก YZi แล็บส์ (อดีต ไบแนนซ์ แล็บส์) ช่วยสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการเทรดและโมเดลทำรายได้ที่แข็งแกร่ง โดยโครงการยังมีแผนที่จะเปิดตัว *บล็อกเชนเลเยอร์ 1* ของตนเอง พร้อมนำ *Zero-Knowledge Proof* มาใช้เพื่อยกระดับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย
อินเทอร์เฟซผู้ใช้งานของแพลตฟอร์มได้รับการยกเครื่องใหม่ทั้งหมด โดยทางโครงการยังประกาศเตรียมแคมเปญแจกทุนทดลองเทรดมูลค่า 10,000 ดอลลาร์ อีกทั้งออกโปรแกรมแต้มสะสม ‘Rh Point’ เพื่อปูทางสู่อีเวนต์แอร์ดรอปในภายหลัง พร้อมเพิ่มระบบคอมมิชชันสำหรับการแนะนำเพื่อนสูงถึง 20% เพื่อกระตุ้นการใช้งานในวงกว้างและตั้งเป้าท้าชิงกับแพลตฟอร์มชั้นนำอย่าง *ไฮเปอร์ลิควิด(Hyperliquid)*
อัสเทอร์ได้เริ่มพัฒนาเพื่อเตรียมเปิด ‘เมนเน็ต’ ของตนเอง โดยพร้อมกันนี้ยังอยู่ระหว่างการสร้าง *แดชบอร์ดตรวจสอบโปร่งใส* และระบบสำรวจเครือข่าย โทเคน AST จะกลายเป็นหัวใจหลักของระบบนิเวศบนแพลตฟอร์มและเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์จนสำเร็จเป็นอันดับแรกในระยะนี้
เดิมที สินค้าทางการเงินที่เคยให้บริการในแพลตฟอร์มของอัสเทอรัส ยังคงให้บริการต่อภายใต้ชื่อ ‘Aster Earn’ โดยมีผลิตภัณฑ์อย่าง *asBNB* ซึ่งเป็น *ลิควิดสเตกกิ้งโทเคน* บน BNB และ *USDF* ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์ภายในระบบ
สำหรับแผนงานในอนาคต *การแมปโทเคน AST*, *การสร้างพันธมิตรทางกลยุทธ์*, และ *การขยายระบบนิเวศ* จะทยอยเปิดเผยในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยเป้าหมายระยะยาวของโครงการคือการเป็นแพลตฟอร์มดีไฟอเนกประสงค์บนระบบ *มัลติเชน* ที่นักเทรดทุกระดับสามารถเข้าถึงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความคิดเห็น 0