สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของไนจีเรีย(SEC) ได้ประกาศนำ ‘เทคโนโลยีบล็อกเชน’ มาใช้เป็นทางการ พร้อมกำหนดแนวทางใหม่ในการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล
ในปีที่ผ่านมา ทางการไนจีเรียได้ดำเนินการปราบปรามแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตที่ไม่มีใบอนุญาต ส่งผลให้เกิดความกังวลในหมู่นักลงทุน โดยเฉพาะกรณีการจับกุมผู้บริหารจากไบแนนซ์ ส่งผลให้ ‘ทีกราน กัมบาร์ยัน’ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้บริหารที่ถูกควบคุมตัว ได้รับการปล่อยตัวหลังมีการแทรกแซงจากรัฐบาลสหรัฐ นโยบายที่เข้มงวดนี้ส่งผลให้ปริมาณการใช้สเตเบิลคอยน์ในไนจีเรีย ‘ลดลง 38%’ และมูลค่าตลาดลดลงเหลือประมาณ ‘23.6 พันล้านดอลลาร์’
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศในตลาดคริปโตของไนจีเรียกำลังเปลี่ยนไป ‘เอโมโมติมี อกามา’ ผู้อำนวยการ SEC ไนจีเรีย มองว่า ‘บล็อกเชน’ มีศักยภาพในการยกระดับตลาดทุนและช่วยลดความไร้ประสิทธิภาพในภาครัฐและเอกชน ผ่านการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงิน
เพื่อเดินหน้ายุทธศาสตร์นี้ SEC ได้จับมือกับ ‘มูลนิธิอัลโกแรนด์(Algorand)’ ในการพัฒนากรอบกำกับดูแลสำหรับเทคโนโลยีบล็อกเชน อกามาย้ำว่า “เราต้องการใช้บล็อกเชนยกระดับความโปร่งใสและความสามารถในการตรวจสอบย้อนกลับของระบบ” ขณะที่ทางอัลโกแรนด์เองก็ยืนยันถึงความตั้งใจที่จะร่วมมือกับรัฐบาลไนจีเรีย เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมทางการเงินที่ปลอดภัย
‘อีริก ลาจ์’ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจของอัลโกแรนด์ ระบุว่า “การที่ไนจีเรียเดินหน้าสู่การนำบล็อกเชนมาใช้อย่างจริงจัง ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ซึ่งจะช่วยให้ภาคการเงินมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
การเปลี่ยนแปลงทิศทางของไนจีเรียครั้งนี้ คาดว่าจะส่งผลในทางบวกต่อตลาดคริปโตของทวีปแอฟริกา อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังต้องจับตาความเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายและปรับกลยุทธ์การลงทุนอย่างรอบคอบ
ความคิดเห็น 0