โซลานา(SOL) กลายเป็นศูนย์กลางความสนใจอีกครั้งหลังราคาร่วงลงหนักท่ามกลางการปรับฐานของตลาดคริปโตโดยรวม โดยนักวิเคราะห์เตือนว่าหากแรงเทขายยังคงดำเนินต่อ ราคาอาจ *ลดลงได้อีกสูงสุดถึง 40%*
จากข้อมูลของแพลตฟอร์ม CoinGecko เมื่อวันที่ 24 ราคาของโซลานาร่วงลงเกือบ 15% ภายในวันเดียว ส่งผลให้ระดับราคาหลุดต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ (ราว 146,000 บาท) ชั่วคราว ก่อนดีดกลับมาอยู่ที่ราว 101 ดอลลาร์ ณ เวลารายงาน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 14 เดือนที่หลุดจากระดับ 100 ดอลลาร์ โดยโซลานาลงมาถึงจุดนี้หลังจากเคยทำจุดสูงสุดที่ 290 ดอลลาร์ (ราว 423,400 บาท) ก่อนประธานาธิบดีทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง กล่าวได้ว่าราคาร่วงลงมามากถึง *65%* จากจุดสูงสุดดังกล่าว
แรงกดดันล่าสุดส่วนหนึ่งมาจากการที่ ‘ทรัมป์’ ได้ออกนโยบาย ‘สงครามการค้า’ ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั้งตลาดการเงินทั่วโลกและตลาดคริปโต อนึ่ง ในช่วงที่ราคาพุ่งขึ้นในอดีต โซลานายังได้รับแรงหนุนจากกระแสของมีมคอยน์ที่เกี่ยวข้องกับทรัมป์ ทำให้เห็นได้ว่าทั้งการปรับขึ้นและลงของราคาครั้งนี้สะท้อนถึงอิทธิพลของการเมืองได้อย่างชัดเจน
นักวิเคราะห์เตือนว่าการปรับฐานอาจยังไม่จบ โดยนักวิเคราะห์ออนเชนอย่าง อาลี มาร์ติเนซ ระบุว่า หากราคาหลุดแนวรับที่ 114 ดอลลาร์ แนวรับถัดไปอาจอยู่ที่ 60 ดอลลาร์ (ประมาณ 87,600 บาท) ขณะเดียวกัน เทรดเดอร์ ‘Crypto_Jobs’ ระบุว่าระดับ 68-70 ดอลลาร์ อาจเป็นโซนแนวรับสำคัญในระยะสั้น
อีกหนึ่งสัญญาณที่ชี้ให้เห็นถึงภาวะถดถอยของระบบนิเวศโซลานาคือ เม็ดเงินที่ถูกล็อกไว้ในโปรโตคอล DeFi (TVL) ที่ลดลงอย่างมีนัย DeFiLlama รายงานว่า TVL ของโซลานาเคยแตะระดับสูงสุดที่ 12,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 175,200 ล้านบาท) เมื่อต้นปีนี้ แต่กลับลดลงมาต่ำกว่า 6,000 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน แนวโน้มดังกล่าวชี้ว่าผู้ใช้งานและสภาพคล่องบนแพลตฟอร์มอาจกำลังลดลง
นอกจากนี้ ปัจจัยสำคัญอีกประการคือการ *ปลดล็อกโทเคนขนาดใหญ่* ที่ถูกปล่อยสู่ตลาดเมื่อต้นเดือน โดย Akam Intelligence เปิดเผยว่ามีการปลดล็อกโซลานาจากการสเตกคิดเป็นมูลค่ารวม 200 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2,920 ล้านบาท) ซึ่งเป็นหนึ่งในรอบที่ใหญ่ที่สุดตามแผนกำหนดถึงปี 2028 แหล่งข่าวระบุว่านักลงทุนวาฬบางรายอาจทราบเรื่องล่วงหน้าและเร่งเทขายสินทรัพย์ ส่งผลกดดันราคาหนักขึ้น
ปัจจุบันมีโทเคน SOL หมุนเวียนในตลาดประมาณ 515 ล้านโทเคน การปล่อยโทเคนจำนวนมากออกมาในครั้งนี้เพิ่มอุปทานในตลาดทันที ทำให้เกิดแรงกดดันทางด้านราคาโดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักลงทุนวาฬสามารถ *สร้างผลกระทบทางจิตวิทยาในตลาด* และกระตุ้นการเทขายแบบตื่นตระหนกจากรายย่อยเพิ่มเติม
ในช่วงเวลานี้ วงการคาดว่าภาวะ *สภาพคล่องตึงตัว* และ *ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ลดลง* จะยังคงเป็นปัจจัยหลักในตลาด ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า แม้โซลานาอาจเกิดการดีดตัวทางเทคนิค แต่การฟื้นตัวในระยะยาวจำเป็นต้องอาศัยปัจจัยหนุนจากภายนอก เช่น การยุติข้อพิพาททางการค้าระดับมหภาค และการกลับมามีเสถียรภาพของตลาดการเงินทั่วโลก
ความคิดเห็น 0