XRP ร่วงหนักเมื่อวันที่ 7 เมษายน ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดจากสงครามการค้าซึ่งสหรัฐฯ เป็นผู้นำเข้าสู่วันที่สาม ส่งผลให้ตลาดคริปโตโดยรวมปรับตัวลดลง ความไม่แน่นอนของตลาดที่เพิ่มขึ้น บวกกับแรงขายจากนักลงทุนในตลาดอนุพันธ์ ได้กดดันราคา *XRP* ให้ปรับลดลงอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีการชำระบัญชีโพซิชันแบบ Long คิดเป็นมูลค่ากว่า 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 876 พันล้านวอน สะท้อนถึงแรงขายที่เร่งตัวขึ้นอย่างชัดเจน
จุดเริ่มต้นของการเทขายนี้เกิดขึ้นหลังจาก *ประธานาธิบดีทรัมป์* ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสูงกับประเทศคู่ค้าสำคัญ ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างประเทศ โดยเป้าหมายหลักคือ จีน และสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์การค้าหลักของสหรัฐฯ ท่าทีแข็งกร้าวนี้ได้สร้างความตึงเครียดในตลาดการเงินโลก และกระทบโดยตรงกับความเชื่อมั่นในสินทรัพย์เสี่ยง โดย *XRP* ที่มีจุดเด่นในการใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศ ได้รับผลกระทบมากกว่าสินทรัพย์อื่นๆ เนื่องจากอ่อนไหวต่อปริมาณการค้าโลกที่อาจลดลง
ภายในวันที่ 7 เมษายน มีการชำระบัญชีโพซิชัน Long ของ *XRP* เกือบ 59.58 ล้านดอลลาร์ หรือราว 870 พันล้านวอน และมีการชำระโพซิชันแบบ Short เพิ่มขึ้นถึง 11.56 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 168 พันล้านวอน ระดับการชำระบัญชีนี้ใกล้เคียงกับช่วงต้นกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่ราคา *XRP* ร่วงลงจาก 2.97 ดอลลาร์เหลือเพียง 1.76 ดอลลาร์ภายในสองวัน ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 4 เดือนในขณะนั้น
นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นในตลาดอนุพันธ์ก็ยังเปราะบางต่อเนื่อง โดยมูลค่า Open Interest หรือโพซิชันค้างในตลาดฟิวเจอร์สของ *XRP* ลดลงมาเหลือ 2.87 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4.19 ล้านล้านวอน) จากระดับสูงสุดที่ 7.8 พันล้านดอลลาร์เมื่อวันที่ 18 มกราคม ลดลงกว่า 63% เท่ากับว่าเงินทุนใหม่ที่เข้าสู่ตลาดหายไปอย่างมีนัยยะ ซึ่งอาจส่งผลให้ *XRP* มีแรงซื้อจำกัด และฟื้นตัวยากขึ้นในระยะสั้น
อีกหนึ่งสัญญาณชี้ไปในทิศทางลบคือ ‘*อัตราค่าธรรมเนียมเงินทุน (Funding Rate)*’ ของสัญญา *XRP* แบบไม่มีวันหมดอายุ ที่ยังคงอยู่ในระดับติดลบมาตลอดตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม โดยในโครงสร้างนี้ นักลงทุนถือโพซิชัน Short จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับผู้ถือ Long แสดงถึงความได้เปรียบของฝ่าย Short และสะท้อนถึงมุมมองเชิงลบของตลาดในภาพรวมอย่างชัดเจน
นักวิเคราะห์คาดว่าการเคลื่อนไหวด้านการค้าระหว่างประเทศและทิศทางนโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯ จะยังคงส่งผลต่อทิศทางของราคา *XRP* อย่างต่อเนื่อง โดยหากนโยบายกีดกันทางการค้าของ *ทรัมป์* ยังคงเดินหน้าต่อ ความเป็นไปได้ที่ *XRP* และสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ จะเผชิญกับแรงกดดันรอบใหม่ ยังไม่สามารถตัดออกได้ในระยะกลางถึงยาว
ความคิดเห็น 0