กองทุน ETF ริปเปิล(XRP) แบบ Leverage ตัวแรกในสหรัฐเตรียมเปิดตัว 9 นี้ หลังยุติคดี SEC

กองทุน ETF ที่มีพื้นฐานจากริปเปิล(XRP) ตัวแรกของสหรัฐเตรียมเปิดตัวในวันที่ 9 นี้ ภายใต้ชื่อ ‘XXRP’ ซึ่งคาดว่าจะเป็นก้าวสำคัญแห่งยุคในตลาดคริปโต โดยรูปแบบของ XXRP คือกองทุนเร่งอัตราทำกำไรแบบสองเท่า (Leverage ETF) ซึ่งจะติดตามความเคลื่อนไหวของราคาริปเปิลในอัตรา *2 เท่า* สิ่งนี้สะท้อนถึงการเบลอเส้นแบ่งระหว่างสินทรัพย์ดั้งเดิมกับการลงทุนในคริปโต และเป็นเหตุผลหลักที่สร้างแรงดึงดูดให้กับนักลงทุนจำนวนมาก

ความน่าสนใจของ ETF ตัวนี้ยิ่งทวีคูณเมื่อพิจารณาว่าการเปิดตัวเกิดขึ้นในช่วงที่ประเด็นข้อพิพาททางกฎหมายของริปเปิลได้เข้าสู่บทสรุป โดยเมื่อไม่นานมานี้ บริษัทริปเปิลได้ตกลงยอมจ่ายค่าปรับ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 730 ล้านบาท) เพื่อยุติคดีความกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) โดยศาลได้ตัดสินว่า *ริปเปิลไม่ใช่หลักทรัพย์* อีกทั้งการยุติประเด็นนี้ยังถูกมองเป็นสัญญาณเชิงบวกที่ช่วยลดความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดการผลักดันการออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีพื้นฐานจากริปเปิลมากยิ่งขึ้น

ในกระแสการเปลี่ยนแปลงนี้ ชื่อของ จอห์น ดีตัน(John Deaton) ทนายความคนสำคัญได้รับการกล่าวถึงในฐานะผู้ผลักดันขบวนการ ‘Free XRP’ ในสหรัฐอย่างจริงจัง ย้อนกลับไปในปี 2021 เขาได้ยื่นคำร้อง “เข้าร่วมแก้ต่าง” เพื่อเปิดทางให้ผู้ถือครองริปเปิลสามารถแสดงความเห็นทางกฎหมายต่อศาลได้ ซึ่งการเคลื่อนไหวครั้งนั้นได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อเสียงของผู้ถือริปเปิลกว่า 75,000 รายถูกส่งถึงศาล ดีตันกล่าวผ่านแพลตฟอร์ม X (ชื่อเดิมคือทวิตเตอร์) เมื่อวันที่ 7 ว่า “ตอนนั้นทนายทั่วไปต่างหัวเราะเยาะในสิ่งที่ผมทำ แต่สุดท้ายเสียงของชุมชนก็ถูกรับฟังและมีผลต่อคำตัดสิน”

ดีตันยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “สถานการณ์ในตอนนี้แตกต่างจากเมื่อสี่ปีก่อนอย่างสิ้นเชิง” พร้อมชี้ว่าความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เช่น การเปิดตัว ETF ล้วนเป็นผลลัพธ์จากการมีส่วนร่วมและการรวมพลังของผู้คนที่ติดตามคริปโตอย่างจริงจัง เขาเสริมด้วยว่า ปัจจุบันในสหรัฐมี ETF ที่เกี่ยวข้องกับริปเปิลมากกว่า 20 ตัวแล้ว ซึ่ง *ความคิดเห็น* บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่เราจะได้เห็นกองทุนลักษณะนี้จากคริปโตอื่น ๆ เพิ่มขึ้นในอนาคต

การเปิดตัวของ XXRP ในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการขยายช่องทางการลงทุนในริปเปิลเท่านั้น แต่ยังตีความได้ว่าเป็นสัญญาณแห่งการเปลี่ยนผ่านที่สำคัญซึ่งแสดงให้เห็นถึงการผสานตัวของคริปโตเข้าสู่ระบบการเงินกระแสหลักอย่างเป็นธรรมชาติ และไม่เพียงแต่ริปเปิลเท่านั้น เพราะในขณะนี้ยังมีคริปโตหลักอื่น ๆ เช่น โซลานา(SOL) ที่อยู่ระหว่างรอการอนุมัติ ETF ซึ่งหมายความว่า *การยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลและการปรับใช้กับระบบทางการเงินกำลังเร่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง*