ความสนใจใน *กระเป๋าเงินคริปโตแบบไม่ต้องมีผู้ดูแล (Non-Custodial Wallet)* เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในตลาดเกาหลีใต้ โดยเฉพาะหลังเกิดเหตุการณ์แฮ็กครั้งใหญ่จากเว็บเทรดไบบิต(Bybit) มูลค่ากว่า 1.46 พันล้านดอลลาร์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ซึ่งได้กระตุ้นความตระหนักถึง ‘ความปลอดภัยของสินทรัพย์’ และการ ‘ควบคุมสิทธิส่วนตัว’ ของผู้ใช้งาน ล่าสุด 1000HP Research บริษัทวิจัยและลงทุนด้านคริปโตระดับโลก เผยผ่านรายงานวิเคราะห์เมื่อเร็วๆ นี้ว่า กระเป๋าเงิน ‘รีวอร์ดี้ วอลเล็ต (Rewardy Wallet)’ จากเกาหลีใต้มีการเติบโตโดดเด่นท่ามกลางกระแสนี้
รีวอร์ดี้ วอลเล็ต เป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ไม่เพียงแค่เก็บโทเคน แต่ยังเน้นการสร้าง *ชุมชนแบบมีรางวัลตอบแทน (Reward-based Community)* โดยโครงสร้างการให้รางวัลทำให้ผู้ใช้งานสามารถสะสมแต้มจากกิจกรรมต่างๆ และแปลงเป็นโทเคน พร้อมทั้งเข้าร่วมกิจกรรมแจกของ หรืออีเวนต์แอร์ดรอปเพื่อรับของรางวัลจริงได้อีกด้วย ตัวแอปเปิดตัวเมื่อเดือนกันยายน 2024 โดยบริษัทเชนวิท(Chainwith) และได้รับการตอบรับอย่างรวดเร็วจากกลุ่มนักลงทุนรายย่อย
จากข้อมูลของ 1000HP Research ระบบของรีวอร์ดีมี *UI/UX ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้*, มีพันธมิตรทางธุรกิจหลากหลาย และมีผลการดำเนินงานที่น่าประทับใจ ได้แก่ ยอดดาวน์โหลดทั้งหมด 235,000 ครั้ง จำนวนกระเป๋าที่เปิดใช้แล้ว 250,000 ใบ และธุรกรรมสะสมกว่า 5 ล้านรายการ ขณะที่กิจกรรมในชุมชนประจำสัปดาห์แตะระดับ 60,000 กิจกรรม สะท้อนการเปลี่ยนจากผู้ใช้งานทั่วไปให้กลายเป็น ‘ผู้มีส่วนร่วม’ อย่างแท้จริง
ในระดับโลก กระเป๋าประเภทนี้มีตัวแทนสำคัญอย่างเมตามาสก์(MetaMask) ที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายอีเธอเรียม(ETH) และแพนทอม วอลเล็ต(Phantom Wallet) ที่ผูกกับโซลานา(SOL) ซึ่งเป็นที่รู้จักเรื่องค่าธรรมเนียมต่ำและความเร็วสูง ในตลาดเกาหลีใต้ยังมีกระเป๋าอย่างคลิป, วีมิกซ์ วอลเล็ต และบูริโต วอลเล็ต ที่แข่งขันกันอย่างสูสี แต่รีวอร์ดี้สร้างความได้เปรียบผ่านระบบ *รางวัลจูงใจ* และกำลังขยายฐานผู้ใช้งานอย่างรวดเร็ว
ด้วยจำนวนผู้ครอบครองคริปโตทั่วโลกที่มากถึง 560 ล้านคน และยอดดาวน์โหลดแอปกระเป๋าเงินสูงถึง 91 ล้านครั้งในปี 2024 ตลาดนี้กำลังเติบโตในอัตราเฉลี่ยต่อปีสูงถึง 32.2% โดยคาดว่าจะมีมูลค่าทะลุ 19 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2025 ในบริบทนี้ รีวอร์ดี้เดินหน้าสู่การขยายตัวระดับโลกด้วยการเปลี่ยนเครือข่ายหลัก(Mainnet Migration) มาสู่ระบบของแอปตอส(APTOS) ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับประสิทธิภาพและรองรับผู้ใช้งานในวงกว้าง
1000HP Research ยังระบุเพิ่มเติมว่า กระเป๋าเงินแบบไม่ต้องมีผู้ดูแล มิได้เป็นเพียง ‘ที่เก็บสินทรัพย์’ แต่กลายเป็น ‘ประตูสู่กิจกรรมดิจิทัล’ และ ‘เครื่องมือเชื่อมต่อเศรษฐกิจใหม่’ ซึ่งรีวอร์ดี้ วอลเล็ต กำลังเป็นผู้นำเทรนด์ดังกล่าว ความสามารถในการสร้างระบบนิเวศที่เน้น *รางวัลตอบแทนจากชุมชน* อาจทำให้บริษัทนี้กลายเป็นกรณีศึกษาด้านนวัตกรรมที่จะเชื่อมโลกของสินทรัพย์ดิจิทัลกับเศรษฐกิจจริงได้อย่างไร้รอยต่อในอนาคต
‘รีวอร์ดี้’ กำลังขับเคลื่อนกระเป๋าเงินให้เปลี่ยนจากเครื่องมือแค่เก็บโทเคน มาเป็น ‘แพลตฟอร์มบริการแบบออนเชน’ ที่มีปฏิสัมพันธ์จริงระหว่างผู้ใช้งาน, ผู้พัฒนา และบริการต่างๆ — ซึ่งอาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของกระเป๋าเงินคริปโตยุคหน้า ความคิดเห็น
ความคิดเห็น 0