กลุ่มเอสบีไอ(SBI) กำลังพิจารณาขายบางส่วนของหุ้นในบริษัท B2C2 ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสภาพคล่องในตลาดคริปโต โดยมีมูลค่าการขายที่อาจแตะระดับประมาณ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1,460 พันล้านวอน ตามรายงานของ Bloomberg เมื่อวันที่ 24 โดยอ้างอิงแหล่งข่าววงใน แม้ว่าจะอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ซื้อที่มีศักยภาพ แต่ทางกลุ่มเอสบีไอก็ออกมาปฏิเสธอย่างเป็นทางการว่าไม่มีแผนการในขณะนี้
B2C2 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในสหราชอาณาจักร และกลายเป็นบริษัทลูกแบบถือหุ้นเต็มจำนวนของกลุ่มเอสบีไอ หลังจาก SBI ไฟแนนเชียลเซอร์วิส ซึ่งเป็นบริษัทย่อย 100% ได้เข้าซื้อหุ้น 90% เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2020 ในเวลานั้นทั้งสองฝ่ายระบุว่ามูลค่าการซื้อขายผ่าน B2C2 เพิ่มขึ้นเกือบ 10 เท่าหลังผสานเข้ากับแพลตฟอร์ม SBI VC เทรด ความเป็นไปได้ในการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นในครั้งนี้อาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างการกระจายสภาพคล่องของตลาดคริปโตทั่วโลก
‘การปรับพอร์ตเชิงกลยุทธ์’ คือความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ ที่มองการเคลื่อนไหวครั้งนี้ว่าเชื่อมโยงกับการปรับตัวของอุตสาหกรรมคริปโตท่ามกลางสภาวะกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้น โดยเฉพาะบทบาทของกลุ่มการเงินขนาดใหญ่ที่เริ่มทบทวนสินทรัพย์หลักในมือ
ในขณะเดียวกัน กลุ่มเอสบีไอยังคงเร่งขยายธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยถือครองกิจการที่เกี่ยวข้องหลากหลาย เช่น แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโต SBI VC เทรด, บิตพอยต์เจแปน, บริษัทวิจัย HashHub และบริษัทปล่อยกู้ SBI ดิจิทัลไฟแนนซ์ ล่าสุดยังเปิดบริการซื้อขาย ‘USDC’ ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์ที่อิงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐให้แก่ประชาชนทั่วไป เพื่อขับเคลื่อนการใช้งานคริปโตในวงกว้าง
นอกจากนี้ กลุ่มยังเตรียมเปิด ‘ศูนย์ฟินเทคโอซาก้า’ ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมเทคโนโลยี Web3, จัดอีเวนต์ และเชื่อมโยงธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โดยมีเป้าหมายสร้างระบบนิเวศการเงินดิจิทัลระดับภูมิภาค และขยายบทบาทในตลาด Web3 ทั่วโลก โดยเฉพาะในทั้งเอเชียและอเมริกาเหนือ
คิตาโอะ โยชิทากะ ประธานกรรมการและซีอีโอของกลุ่มเอสบีไอ เคยกล่าวในการประชุม FIN/SUM ว่า *“ระบบเศรษฐกิจคริปโตที่เรากำลังก่อร่างสร้างขึ้น จะกลายเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น”* ทำให้ทิศทางของการขายหุ้น B2C2 ครั้งนี้ยิ่งถูกจับตามองว่า เป็นส่วนหนึ่งของการปรับแผนธุรกิจครั้งใหญ่ หรือเพียงแผนการจัดสรรพอร์ตในระยะสั้นกันแน่
ความคิดเห็น 0