ริปเปิล(XRP) ทุ่ม 1.25 พันล้านดอลลาร์ฮุบ 'ฮิดเดนโร้ด' แม้ราคาดิ่ง 10% หลังประกาศดีล

บริษัทคริปโตชื่อดัง ‘ริปเปิล(XRP)’ ได้ประกาศเข้าซื้อกิจการบริษัทบริหารนายหน้าระดับโลก ‘ฮิดเดนโร้ด(Hidden Road)’ ในมูลค่าสูงถึง 1.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 46,000 ล้านบาท นับเป็นหนึ่งในดีลครั้งใหญ่ของวงการ อย่างไรก็ตาม ราคาของริปเปิลคอยน์กลับตอบสนองในทางลบ โดยร่วงลงเกือบ 10% ภายในครึ่งวันหลังการประกาศ

เมื่อวันที่ 8 ริปเปิลยืนยันการเข้าซื้อกิจการฮิดเดนโร้ดอย่างเป็นทางการ โดยระบุว่าบริษัทกลายเป็นผู้ให้บริการคริปโตเจ้าแรกที่มีบริการ ‘ไพรม์โบรกเกอร์’ แบบพหุสินทรัพย์ในระดับโลก ฮิดเดนโร้ดถือเป็นโบรกเกอร์รายใหญ่ มีมูลค่าการชำระบัญชีรายปีสูงถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 105 ล้านล้านบาท) และให้บริการแก่ลูกค้าสถาบันมากกว่า 300 ราย ริปเปิลมองว่า การเข้าซื้อครั้งนี้เป็นโอกาสในการเชื่อมโลกคริปโตเข้ากับตลาดการเงินแบบดั้งเดิมอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

แบรด การ์ลิงเฮาส์(Brad Garlinghouse) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของริปเปิลให้ความเห็นว่า “ราคาไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สิ่งที่เราได้คือโอกาสครั้งใหญ่ในการเชื่อมโยงคริปโตกับระบบการเงินที่น่าเชื่อถือ” เขาระบุว่า ฮิดเดนโร้ดจะกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักสำหรับการส่งผ่านมูลค่าที่ ‘รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และต้นทุนต่ำ’ ผ่านระบบของ XRP และ XRP Ledger นอกจากนี้ยังเผยว่าบริษัทมีแผนใช้สเตเบิลคอยน์ของตัวเองอย่าง ‘RLUSD’ เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในบริการไพรม์โบรกเกอร์ต่างๆ อีกด้วย

การ์ลิงเฮาส์ยังชี้ให้เห็นถึงความชัดเจนด้านกฎระเบียบในตลาดสหรัฐ หลังข้อพิพาทกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ฯ (SEC) คลี่คลาย พร้อมระบุว่าการเข้าซื้อครั้งนี้สะท้อน ‘จุดเปลี่ยน’ สำคัญของการยอมรับคริปโต อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางรายยังคงแสดงความกังวล หลังริปเปิลไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับแผนเสนอขายหุ้น IPO ในเร็วๆ นี้

ทั้งนี้ ‘ตลาดกลับไร้แรงตอบรับเชิงบวก’ ต่อข่าวการเข้าซื้อดังกล่าว โดยราคาของริปเปิลร่วงลงถึง 10% สู่ระดับ 1.73 ดอลลาร์ ภายใน 12 ชั่วโมงหลังแถลงการณ์ วันเดียวกัน บิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) ก็ปรับลดลงเช่นกัน สะท้อนความกังวลของนักลงทุนที่เทขายสินทรัพย์ความเสี่ยงสูงอย่างต่อเนื่อง

ความไม่แน่นอนของตลาดคริปโตยังถูกซ้ำเติมโดยสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศ หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์เริ่มต้นสงครามการค้ารอบใหม่ด้วยการประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสูงถึง 104% โดยให้เหตุผลเรื่องปกป้องเศรษฐกิจภายในประเทศ ท่ามกลางความผันผวนดังกล่าว นักลงทุนจำนวนมากเริ่มถอนตัวจากสินทรัพย์เสี่ยง ทำให้ราคาทั้งตลาดคริปโตร่วงลงเฉลี่ยถึง 7% ในวันเดียว

แม้ว่าราคา XRP จะลดลงจากจุดสูงสุดเมื่อกลางเดือนมกราคมเกือบ 50% แต่หากมองในกรอบทั้งปี ก็ยังถือว่ามีกำไรโดดเด่น อย่างไรก็ตาม ดีลใหญ่ของริปเปิลครั้งนี้ยังไม่สามารถผลักดันราคาให้เพิ่มขึ้นได้ในระยะสั้น ความเชื่อมั่นของตลาดยังต้องการ ‘ผลประกอบการที่เป็นรูปธรรม’ และการสนับสนุนจากสภาพแวดล้อมด้านนโยบายเพื่อให้ราคากลับมายืนได้อีกครั้ง