ชาร์ลส์ ฮอสกินสันเตือน! คริปโตต้องรวมพลังสู้บิ๊กเทค แนะใช้ 'โทเคโนมิกส์แบบร่วมมือ'

ชาร์ลส์ ฮอสกินสัน ผู้ก่อตั้งคาร์ดาโน(Cardano) แสดงความเห็นว่า โครงการคริปโตควรยึด ‘โทเคโนมิกส์แบบร่วมมือ’ และปรับรูปแบบตลาดเพื่อความอยู่รอดในการแข่งขันกับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในอนาคต

เมื่อวันที่ 24 ในงาน Paris Blockchain Week 2025 ที่ฝรั่งเศส ฮอสกินสันกล่าวว่า อุตสาหกรรมคริปโตขณะนี้มีลักษณะคล้ายเกมผลรวมเป็นศูนย์ (Zero-Sum Game) ที่การเติบโตของโครงการหนึ่งมักหมายถึงการสูญเสียของอีกโครงการหนึ่ง “ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนเช่นนี้ไม่เอื้อต่อการเติบโตในระยะยาว และไม่ยั่งยืนในทางโครงสร้าง” เขากล่าว

เขายังเตือนว่า หากโครงการคริปโตยังคงแข่งขันกันด้วยท่าทีเป็นศัตรู การรับมือกับบริษัทเทคโนโลยีศูนย์กลางขนาดใหญ่ เช่น แอปเปิล, กูเกิล และไมโครซอฟท์(MSFT) ที่เตรียมเข้ามาในภาคเว็บ3 อาจกลายเป็นเรื่องยาก “บริษัทที่มีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์เหล่านี้มีทั้งเงินทุนและโครงสร้างพื้นฐานครบถ้วน หากเรายังอยู่ในสภาวะการแยกส่วนแบบนี้ ก็ไม่มีทางชนะในการแข่งขันระดับโลกได้”

ข้อเสนอของฮอสกินสันได้รับความสนใจมากขึ้นเมื่อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสเตเบิลคอยน์ในสหรัฐเข้าสู่ช่วงการพิจารณา โดยมีแนวโน้มว่าจะผ่านภายใน 2 เดือน โดยเฉพาะร่างกฎหมาย ‘GENIUS’ ที่กำหนดเกณฑ์สินทรัพย์ค้ำประกันและกฎป้องกันการฟอกเงินอย่างชัดเจน ซึ่งอาจช่วยให้บริษัทบิ๊กเทครับใบอนุญาตและเข้าสู่ตลาดได้ง่ายขึ้น

ฮอสกินสันชี้ว่า หากกฎระเบียบได้รับการจัดระเบียบ บริษัทอย่างเมตา (ชื่อใหม่ของเฟซบุ๊ก), ไมโครซอฟท์, อเมซอน, และแอปเปิล(AAPL) ซึ่งมีผู้ใช้จำนวนหลายพันล้านราย จะเข้าสู่ระบบนิเวศคริปโตในฐานะเจ้าของแพลตฟอร์มโดยตรง ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อโครงการโอเพ่นซอร์ส “ถึงเวลาแล้วที่เราต้องคิดอย่างจริงจังว่าเราจะรับมือกับพวกเขาอย่างไร”

เขายังเปรียบเทียบว่า แอปเปิลสามารถสร้างกระเป๋าเงินดิจิทัลที่เชื่อมต่อกับผู้ใช้งาน iPhone ได้ทันที ขณะที่โครงการอย่างคาร์ดาโนยังต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานพื้นฐานอยู่ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมจำเป็นต้องสร้างโครงสร้างที่บริษัทภายนอกสามารถใช้งานร่วมได้

ปัจจุบัน คาร์ดาโนกำลังเร่งพัฒนาโปรโตคอล ‘มิโนทอร์’ (Minotaur) ซึ่งเป็นการผสานกลไกฉันทามติต่างๆ และให้เครือข่ายหลายฝ่ายสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในความปลอดภัยของระบบ และรับรางวัลในสกุลเงินที่ต้องการ “เมื่อเครือข่ายต่าง ๆ ร่วมมือกันแบ่งปันรางวัลการผลิตบล็อก จะช่วยส่งเสริมความยั่งยืนของทั้งระบบในภาพรวม” เขากล่าว

ภายใต้การเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายและการเปิดระบบการเงินในสหรัฐ ความเห็นของฮอสกินสันสะท้อนภาพของอุตสาหกรรมคริปโตที่ควรหยุดการแข่งขันระหว่างกลุ่ม และหันมาออกแบบโครงสร้างเพื่อการเติบโตร่วมกัน เพื่อต่อสู้กับแรงกดดันของบิ๊กเทคในอนาคตอย่างมีพลังมากขึ้น