เฮียวมา ไฟแนนซ์(Huma Finance) ผู้นำด้านเครือข่ายการเงินเพื่อการชำระเงิน(PayFi) เผยเมื่อวันที่ 10 ว่า ได้เปิดตัวแพลตฟอร์ม ‘ฮิวมา 2.0’ บนเครือข่ายบล็อกเชนโซลานา(SOL) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการลงทุนผลตอบแทนสูงแบบเปิด โดยแพลตฟอร์มใหม่นี้จะเปิดทางให้ผู้ลงทุนทั่วโลกสามารถเข้าถึงรายได้ที่มั่นคงจากกิจกรรมชำระเงินและการค้าในชีวิตประจำวัน
ฮิวมา 2.0 มีโครงสร้างแบบ ‘ไร้ใบอนุญาต’ ช่วยให้ใครก็สามารถเข้าร่วมได้อย่างอิสระ แพลตฟอร์มมีให้เลือกใช้งาน 2 โหมด ได้แก่ โหมด ‘คลาสสิก’ (Classic) ที่ให้ผลตอบแทน USDC หลัก ‘สองหลัก’ พร้อมแจกจ่ายโทเคนรางวัล ‘ฮิวมา เฟเธอร์’ (Huma Feather) และโหมด ‘แมกซี’ (Maxi) ที่ไม่มีผลตอบแทน USDC แต่มีอัตราการสะสม Huma Feather สูงขึ้นถึง 5 เท่า สำหรับผู้ต้องการเก็บสะสมรางวัลในระยะยาว
ความสามารถในการจัดโครงสร้างแบบ ‘Composability’ ซึ่งเป็นหัวใจของระบบดีไฟ (DeFi) ถูกนำมาใช้ผ่านโทเคน $PST (PayFi Strategy Token) ที่สามารถสร้างรายได้แบบเรียลไทม์ โดยเชื่อมโยงกับโปรโตคอลหลักในระบบนิเวศของโซลานา เช่น การแลกเปลี่ยนกับ USDC ผ่านจูปิเตอร์(Jupiter), การใช้เป็นหลักประกันผ่านคามิโน(Kamino) และการเทรดรางวัลผ่านระบบของเรทเอ็กซ์(RateX) ที่เตรียมนำมาใช้เร็ว ๆ นี้
ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องล็อกเงินทุน แต่หากเลือกล็อกไว้ 3 หรือ 6 เดือน จะได้รับตัวคูณรางวัลที่สูงขึ้นเป็นพิเศษ โดยช่วงโปรโมชันเริ่มต้นจะมีรางวัลระดับ ‘ฉีกกรอบ’ สำหรับผู้เลือกใช้งานโหมดแมกซี
เฮียวมาประสบความสำเร็จภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี ด้วยปริมาณธุรกรรมสะสมกว่า 3.8 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5.5 ล้านล้านวอน) และมีรายได้ต่อปีอยู่ที่ประมาณ 8 ล้านดอลลาร์ (ราว 117 พันล้านวอน) รายได้จากโมเดล PayFi มาจากค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากบริษัทที่ต้องการสภาพคล่องในระบบการชำระเงิน ต่างจากระบบดั้งเดิมที่พึ่งพาแรงจูงใจจากโทเคนหรือความผันผวนของตลาด ซึ่งเงินทุนที่ได้มีการหมุนเวียนทุกไม่กี่วัน ทำให้สามารถสร้างรายได้จริงได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีรายงานจากเมซซารี(Messari) ชี้ว่า PayFi มีศักยภาพในการขยายตลาดถึง 30 ล้านล้านดอลลาร์
เออร์บิล คารามาน(Erbil Karaman) ผู้ร่วมก่อตั้งของเฮียวมากล่าวว่า “ฮิวมา 2.0 ไม่ใช่เพียงแค่ผลิตภัณฑ์ให้รายได้ทั่วไป แต่เป็นจุดเปลี่ยนของโครงสร้างทางการเงิน” พร้อมระบุว่านี่คือการนำ ‘รายได้จากโลกจริง’ เข้ามาเชื่อมกับระบบดีไฟ และเป็นก้าวสำคัญในการเปิดโอกาสที่เคยจำกัดอยู่ในวงการการเงินสถาบันให้เปิดกว้างสู่ระบบไร้ศูนย์กลาง
การเปิดตัวนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ระบบโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินแบบเดิมเริ่มแสดงข้อจำกัดทั้งด้าน ‘ความเร็ว’ และ ‘ความโปร่งใส’ ขณะที่มูลค่าการใช้งานของสเตเบิลคอยน์ในรอบปีทะยานแตะ 35 ล้านล้านดอลลาร์ สะท้อนความนิยมที่เพิ่มขึ้นของระบบชำระเงินบนบล็อกเชน ซึ่งฮิวมาหวังว่าจะเป็นสะพานเชื่อมให้ผู้ใช้รายย่อยเข้าถึงแหล่งรายได้ที่มีพื้นฐานจากเศรษฐกิจจริง
รายได้จาก PayFi ซึ่งมีอัตราผันผวนตามวงจรเศรษฐกิจน้อย ยังเป็นจุดเด่นโดยเฉพาะในช่วงตลาดหมีที่รายได้จากการฝากเงินแบบเสี่ยงต่ำลงอย่างมาก ในขณะที่กิจกรรมทางธุรกิจที่ต้องการชำระเงินยังคงดำเนินอยู่ ทำให้โครงสร้างรายได้ของฮิวมาถูกมองว่ามีความมั่นคงมากกว่า ตัวอย่างเช่น โปรเจกต์ใหม่อย่าง Solmate ของสพลายซ์(Splyce) ได้ร่วมมือกับ $PST ของฮิวมาและระบบสเตกกิ้งของโซลานาในการคิดค้นกลยุทธ์รูปแบบใหม่
การเปิดตัวเวอร์ชัน 2.0 ครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นการเปิดประตูเข้าสู่ระบบการเงินแบบชำระเงินที่ทุกคนมีสิทธิเข้าร่วม โดยผู้ใช้ที่เคยมีประวัติการฝากกับฮิวมา หรืออยู่ในกลุ่มชุมชนพันธมิตร จะได้รับค่าตอบแทนที่สูงยิ่งขึ้น โดยฮิวมาระบุว่าตนได้รับเลือกเป็นผู้เปิดตัวอันดับแรกใน LFG 2.0 Launchpad ของจูปิเตอร์ ซึ่งจะช่วยขยายขอบเขตการเชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มดีไฟให้กว้างขึ้นอย่างมาก
ผู้สนใจใช้งานแพลตฟอร์มหรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ https://huma.finance หรือ ติดตามบัญชีทางการ @humafinance บนแพลตฟอร์ม X เพื่อรับข่าวสารล่าสุด
ความคิดเห็น 0