เมื่อวันที่ 15 (เวลาท้องถิ่น) อะเมซอน เว็บ เซอร์วิส (AWS) ประสบปัญหา *เครือข่ายขัดข้องครั้งใหญ่* ส่งผลให้แพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลแบบรวมศูนย์ (CEX) ชื่อดังอย่าง ไบแนนซ์(Binance), คูคอยน์(KuCoin) และ MEXC รวมถึงบริการกระเป๋าเงินคริปโตต่างๆ พบกับอุปสรรคในการดำเนินงานตามปกติ
ทาง AWS รายงานผ่านเว็บไซต์หลักว่า มีการตรวจพบ ‘ปัญหาการเชื่อมต่อ’ ในหลายบริการ และแม้จะเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวบางส่วน แต่ยังคงต้องมีการ *เฝ้าระวังต่อเนื่อง* ไปจนกว่าจะกลับมาเป็นปกติ ข้อมูลระบุว่าความขัดข้องในครั้งนี้กระทบต่อบริการของ AWS อย่างน้อย 12 รายการ และความเร็วในการกู้คืนระบบขึ้นอยู่กับการดำเนินการของแต่ละบริษัท
ไบแนนซ์เป็นรายแรกที่แจ้งสถานการณ์ โดยระบุผ่านบัญชี X (ชื่อเดิม Twitter) ว่า “เกิดปัญหาในบางบริการเนื่องจากการขัดข้องของศูนย์ข้อมูล AWS แต่สามารถดำเนินการคำสั่งซื้อบางรายการได้ตามปกติ ขณะที่บางรายการล้มเหลว” ทั้งนี้ยังเปิดเผยว่า *คำสั่งซื้อที่ล้มเหลวสามารถส่งซ้ำได้*
จากนั้นไม่นาน ไบแนนซ์รายงานว่า *บริการหลักส่วนใหญ่ โดยเฉพาะการถอนเงิน ได้รับการกู้คืนแล้ว* อันเป็นผลจากความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับ AWS
ทางด้านคูคอยน์แจ้งผ่าน X ในวันเดียวกันว่า “แพลตฟอร์มของเราถูกหยุดชะงักชั่วคราวทั่วทั้งระบบเนื่องด้วยปัญหาเครือข่ายของ AWS” ส่วน MEXC พบปัญหาเช่น กราฟแท่งเทียนแสดงผลผิดปกติ, คำสั่งซื้อที่ยกเลิกไม่ได้ และความล่าช้าในการโอนสินทรัพย์ อย่างไรก็ตาม MEXC ยืนยันว่า *สินทรัพย์ของผู้ใช้ยังคงปลอดภัย*
เหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อน *จุดอ่อนเชิงโครงสร้างของการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์แบบรวมศูนย์* โดย AWS ถูกใช้อย่างแพร่หลายในวงการ ด้วยจุดเด่นด้าน latency ต่ำและการรองรับทราฟฟิกขนาดใหญ่ ซึ่งทำให้บริษัทคริปโตรายใหญ่ เช่น คอยน์เบส(Coinbase), คริปโตดอทคอม(Crypto.com), หว่อปี้(Huobi), บิทเม็กซ์(BitMEX) และ คราเคน(Kraken) ล้วนใช้โครงสร้างพื้นฐานนี้
*ความคิดเห็น*: หลายฝ่ายในแวดวงคริปโตเริ่มตั้งข้อสังเกตถึงความเสี่ยงของ ‘จุดล้มเหลวเดียว’ (Single Point of Failure) ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์คล้ายกันอีกในอนาคตอาจส่งผลให้เกิดการ *ชะงักงันของบริการแบบลูกโซ่* ในทั้งอุตสาหกรรมได้อีกครั้ง
ความคิดเห็น 0