แม้ราคาตลาดคริปโตจะร่วงลงอย่างหนักเมื่อไม่นานนี้ แต่จำนวนสินทรัพย์ที่ถูกล็อกไว้ภายในระบบบล็อกเชนของโครงการ *มันทรา(Mantra)* หรือที่เรียกว่า TVL (Total Value Locked) กลับพุ่งแตะระดับสูงสุดของปี ซึ่งสร้างความสนใจอย่างมากในวงการ ท่ามกลางความผันผวนของตลาด สัญญาณนี้สะท้อนถึง *กลยุทธ์การเข้าซื้อของนักลงทุนรายใหญ่* ที่มองเห็นโอกาสในช่วงตลาดตกต่ำ
จากข้อมูลของ DefiLlama เมื่อวันที่ 15 เมษายน TVL ของมันทราอยู่ที่ 4.21 ล้าน OM คิดเป็นมูลค่าประมาณ 47.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่า 500% จากเมื่อสองวันก่อน ชวนให้จับตามอง เนื่องจากตรงกันข้ามกับราคา OM ที่ร่วงลงกว่า 90% ในช่วงสุดสัปดาห์เดียวกัน
ทีมงานมันทราเชื่อว่า ราคาที่ร่วงลงอย่างแรงส่วนหนึ่งมาจากการ *ถูกบังคับขายบนแพลตฟอร์มศูนย์รวม (Centralized Exchange)* ซึ่งเกิดจากการชำระบัญชีสินทรัพย์โดยไม่ได้ตั้งใจ อย่างไรก็ตาม มีเงินทุนจำนวนมากไหลเข้าสู่โปรโตคอลในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งทำให้หลายฝ่ายคาดว่า *การลงทุนเชิงกลยุทธ์เกิดขึ้นในช่วงตลาดตกต่ำนี้*
นักวิเคราะห์ DOM เผยว่า ในวันที่ 13 เมษายน มีคำสั่งซื้อ OM คิดเป็นมูลค่าราว 3,500 ล้านดอลลาร์ (ราว 511 ล้านบาท) ซึ่งอาจเกิดจากกระเป๋าเงินรายใหญ่ (Whale) หรือบุคคลภายในที่ดำเนินการสะสมอย่างมีเป้าหมาย ภายหลัง OM เริ่มฟื้นตัว โดย ณ วันที่ 15 เมษายน พุ่งขึ้นสูงสุดถึง 0.99 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 170% จากจุดต่ำสุดช่วงสุดสัปดาห์
แม้ตัวเลขจะดูสดใส แต่ก็มีคำเตือนจากหลายฝ่ายถึง *ความเสี่ยงเชิงโครงสร้าง* ของโปรโตคอลนี้ เนื่องจากกว่า 97% ของ TVL ทั้งหมด กระจุกตัวอยู่ใน *Mantra Swap* ซึ่งเป็นระบบแลกเปลี่ยนแบบไร้ศูนย์กลาง (DEX) ของมันทราเอง โดยมี 4.11 ล้าน OM จากทั้งหมด 4.21 ล้าน OM อยู่ใน Automated Market Making (AMM) เดียวกัน แสดงให้เห็นถึง *การกระจุกตัวของสินทรัพย์* ที่น่ากังวล
ระบบนิเวศที่มีความยั่งยืนควรจะกระจายตัวยอดเงินไปยังบริการอย่างการวางเดิมพัน (Staking), การให้กู้ยืม หรืออนุพันธ์ แต่ในกรณีนี้โครงสร้างยังอยู่ในรูปแบบ *พอร์ตความเสี่ยงสูงอย่างชัดเจน*
ที่สำคัญ มูลค่าตลาดแบบ Fully Diluted Valuation (FDV) ของมันทราทะยานสูงถึง 1.88 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.74 หมื่นล้านบาท) ในขณะที่ TVL จริงมีเพียง 3.24 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 47.3 ล้านบาท) เท่านั้น ตัวเลขนี้หมายความว่า *มีเพียง 0.17% ของมูลค่าโครงการเท่านั้นที่ถูกนำมาใช้งานจริง* ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่า ราคาตลาดน่าจะ *พองตัวจากคาดการณ์เกินจริงและกระแสเก็งกำไร* อีกทั้งมีโทเคนจำนวนมากยังไม่เข้าสู่ตลาด สร้างความกังวลเรื่อง *ความเสี่ยงจากการปลดล็อกโทเคนในอนาคต*
เจมส์บิทยูนิกซ์(JamesBitunix) นักวิเคราะห์คริปโต แสดงความคิดเห็นผ่านโซเชียลมีเดียว่า “เทรดเดอร์จำนวนมากมองว่าเป็นช่วงเข้าสะสม ทั้งในตลาดสปอตและสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีเลเวอเรจ” พร้อมเสริมว่า “โดยส่วนตัวคาดว่าจะมีการปรับฐานเพิ่มเติมอีกครั้งก่อนที่ราคาจะดีดกลับอย่างรุนแรง”
กรณีของมันทราไม่ได้เป็นแค่การรีบาวด์ของราคาเท่านั้น แต่ยังเป็น *สัญญาณเตือนถึงความไม่สมดุลภายในระบบนิเวศคริปโต* หากผู้เล่นในตลาดเมินเฉยต่อความเสี่ยงภายใน อาจเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอีกครั้งในอนาคต การระมัดระวังต่อโครงสร้างภายในจึงกลายเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง
ความคิดเห็น 0