แบร์รี ซิลเบิร์ต(Barry Silbert) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของดิจิทัล เคอร์เรนซี กรุ๊ป(Digital Currency Group) เผยว่า หากเขาเลือกถือบิตคอยน์(BTC)ไว้ตั้งแต่ช่วงแรก แทนที่จะลงทุนในบริษัทคริปโตเกิดใหม่ ผลตอบแทนที่ได้อาจสูงกว่ามาก
ซิลเบิร์ตเปิดใจเรื่องนี้ผ่านพอดแคสต์ ‘Journey Man’ ของราอูล พาล(Raoul Pal) เมื่อวันที่ 17 ที่ผ่านมา โดยกล่าวว่าเขารู้จักกับบิตคอยน์ครั้งแรกในปี 2011 ขณะนั้นราคาบิตคอยน์อยู่ที่ราว 7-8 ดอลลาร์ต่อเหรียญ เขาเล่าว่าไม่นานหลังจากนั้นเขาเริ่มลงทุนในบริษัทคริปโตยุคแรก เช่น คอยน์เบส(Coinbase) ตามการเติบโตของราคา
เขาเน้นว่า ในตอนนั้นเขาใช้บิตคอยน์เป็นสื่อกลางในการลงทุนในสตาร์ตอัปหลากหลายราย โดยให้ความเห็นว่า แม้การลงทุนในบริษัทอย่างคอยน์เบสดูจะมีเหตุผลและประสบความสำเร็จ แต่หากถือ *บิตคอยน์* เองไว้ตลอด ผลตอบแทนกลับสูงกว่ามาก ความเห็นนี้สะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างความเสี่ยงที่มาจากการลงทุนในสตาร์ตอัปกับผลตอบแทนที่คาดหวัง
คอมเมนต์ของซิลเบิร์ตมีขึ้นในช่วงเวลาที่กระแส *บิตคอยน์ในระยะยาว* กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง โดยไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทกลยุทธ์(Strategy) และกลุ่ม *แม็กซิมัลลิสต์บิตคอยน์* ต่างก็เชื่อว่าราคาบิตคอยน์จะทะยานถึงระดับ ‘หลักล้านดอลลาร์’ ภายในสิบปีข้างหน้า อีกทั้งการสนับสนุนคริปโตของประธานาธิบดีทรัมป์ก็ยิ่งเพิ่มความสนใจจากภาครัฐและสถาบันในตลาดโลก
กรณีของซิลเบิร์ตจึงไม่ใช่แค่เรื่องกำไรจากการลงทุนเท่านั้น แต่ยังชี้ให้เห็นว่า ท่ามกลางความผันผวนในยุคเริ่มต้นของตลาดคริปโต สิ่งที่ทรงพลังที่สุดอาจไม่ใช่ ‘เทคโนโลยีของบริษัท’ แต่คือ ‘บิตคอยน์’ ที่เป็นแก่นแท้ของวงการนี้
ความคิดเห็น 0