ประธานาธิบดีทรัมป์ส่งแรงสั่นสะเทือนครั้งใหม่แก่ตลาด ด้วยการวิพากษ์วิจารณ์เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อย่างรุนแรง พร้อมเรียกร้องให้ปลดออกจากตำแหน่งทันที ทำให้เกิดความกังวลใหม่เกี่ยวกับ ‘ความเป็นอิสระของเฟด’ ท่ามกลางภาวะตลาดคริปโตที่กำลังเผชิญความปั่นป่วน โดยเฉพาะราคาบิตคอยน์(BTC) ที่เคยพุ่งขึ้นแตะ 109,000 ดอลลาร์ หลังทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง แต่กลับร่วงลงอีกครั้งจากแรงกดดันด้านภาษีและความล่าช้าในการกำกับดูแล
เมื่อวันที่ 24 สำนักข่าว CNBC เปิดเผยบทสัมภาษณ์ของเอลิซาเบธ วอร์เรน วุฒิสมาชิกสหรัฐ ที่เตือนว่าหากประธานาธิบดีสามารถสั่งปลดหัวหน้าเฟดได้อย่างไม่มีข้อจำกัด อาจทำให้ *ตลาดการเงินล่มสลาย* เธอย้ำว่า แม้มีความเห็นต่างกับนโยบายของพาวเวล แต่การ *คงไว้ซึ่งความเป็นอิสระของเฟด* เป็นสิ่งจำเป็นต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของสหรัฐ
วอร์เรนยังกล่าวที่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กว่า หากธนาคารกลางถูกกดดันทางการเมือง นักลงทุนทั่วโลกจะหมดความเชื่อมั่นในระบบของสหรัฐ และนั่น *ไม่ต่างอะไรจากระบอบเผด็จการ* ที่แทรกแซงการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจ
ก่อนหน้านี้ในวันพฤหัสบดี (เวลาในสหรัฐ) ทรัมป์ได้โพสต์ลงบน Truth Social เครือข่ายโซเชียลของตัวเอง ระบุว่า “พาวเวลตัดสินใจผิดพลาดและช้าเกินไปเสมอ” พร้อมเรียกร้องให้มีการ *ปลดเขาออกโดยเร็วที่สุด* แม้ทำเนียบขาวจะออกมาชี้แจงภายหลังว่าโพสต์ดังกล่าว *ไม่ใช่ความพยายามปลดอย่างเป็นทางการ* แต่ก็สร้างแรงสั่นสะเทือนทั้งตลาดและแวดวงการเมืองในทันที
อย่างไรก็ตาม พาวเวลเคยแสดงจุดยืนชัดเจนแล้วว่า ประธานาธิบดีไม่มีอำนาจปลดประธานเฟดโดยปราศจากเหตุผลตามกฎหมาย ซึ่งจนถึงขณะนี้ *ยังไม่มีการดำเนินการทางกฎหมายใดๆ* จากฝั่งทรัมป์
ย้อนกลับไปในยุคของรัฐบาลไบเดน เฟดภายใต้การนำของพาวเวลได้เร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ หลังเกิดการระบาดของโควิด-19 และเพิ่งเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยลงในปี 2024 แต่พาวเวลยังคงระมัดระวังในการปรับลดมากกว่านี้ เนื่องจากความไม่แน่นอนจาก *นโยบายภาษีอันผันผวนของทรัมป์*
แม้ทรัมป์จะผ่อนคลายการเก็บภาษีชั่วคราว 90 วันเพื่อสร้างความเชื่อมั่น แต่เมื่อหมดระยะ ผันผวนเดิมอาจกลับมากระทบตลาดอีกครั้ง โดยเฉพาะหากมีความพยายามปลดพาวเวลตามคำของประธานาธิบดี ก็อาจก่อให้เกิด ‘*ความไม่สงบทางการเงินรอบใหม่*’ ตามคำเตือนของวุฒิสมาชิกหลายคน
คำเตือนของวอร์เรนจึงไม่ใช่เพียงการเมือง แต่สะท้อนเสียงเรียกร้องให้ปกป้องกลไกพื้นฐานของเศรษฐกิจโลก ท่ามกลางตลาดที่ตอบสนองอย่างไวต่อสัญญาณจากเฟดและแรงกดดันทางการเมือง การแทรกแซงจากทำเนียบขาวในตอนนี้อาจหมายถึงมากกว่าการเปลี่ยนผู้นำ แต่นำไปสู่ *วิกฤตความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลก* ได้อย่างแท้จริง
ความคิดเห็น 0