เฮชชีคีแคปิตอล เปิดตัวกองทุนติดตามริปเปิล(XRP) ครั้งแรกในเอเชีย โดยได้รับการสนับสนุนจาก ‘ริปเปิล’ ซึ่งเข้าร่วมเป็นนักลงทุนรายแรก กองทุนนี้ออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักลงทุนสถาบันสามารถเข้าถึงริปเปิล(XRP) ได้อย่างถูกกฎหมายและไม่ต้องถือเหรียญหรือซื้อขายด้วยตัวเอง
ตามรายงานจากบริษัท เมื่อวันที่ 24 กองทุนติดตาม XRP ดังกล่าวจะอ้างอิงดัชนีจาก CF Benchmarks และเปิดให้สมัครและไถ่ถอนเดือนละครั้งผ่านเงินสดหรือสินทรัพย์ดิจิทัล นับเป็นแนวทางที่ง่ายและมีโครงสร้างรองรับจากภาครัฐ ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนในภูมิภาคเอเชียที่ต้องการถือครองคริปโตอย่างถูกกฎหมาย
บีเบียน หว่อง หุ้นส่วนกองทุนฝั่งสินทรัพย์สภาพคล่องของเฮชชีคีแคปิตอล กล่าวว่า “ริปเปิล(XRP) เป็นหนึ่งในคริปโตเคอร์เรนซีที่นวัตกรรมที่สุดในตลาดปัจจุบัน ทั้งในด้านการโอนเงิน การใช้ในระบบโทเคน และการเก็บรักษามูลค่า ซึ่งบริษัททั่วโลกกำลังใช้ประโยชน์จากเหรียญนี้” พร้อมเสริมว่า ความเร็วและค่าธรรมเนียมที่ต่ำของริปเปิลนั้น ทำให้ได้เปรียบเหนือระบบโอนเงินข้ามประเทศแบบเดิมอย่าง SWIFT
นอกจากนี้ ยังมีจุดแข็งจากการรองรับการโทเคนสินทรัพย์จริงผ่านระบบ XRP Ledger (XRPL) ซึ่งปัจจุบันมีการใช้งานจริงแล้วในภาคธนาคารและธุรกิจหลายแห่งทั่วโลก
สำหรับกองทุน XRP ใหม่นี้ ถือเป็นกองทุนติดตามคริปโตลำดับที่สามของเฮชชีคีแคปิตอล ต่อจากกองทุนบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) ที่ร่วมพัฒนากับบริษัทโบเซรา หากได้รับอนุมัติตามกฎระเบียบ ก็มีแนวโน้มจะเปลี่ยนเป็นกองทุน ETF ได้ภายใน 1-2 ปีข้างหน้า
ในระยะยาว ทั้งสองบริษัทตั้งเป้าร่วมกันพัฒนาโครงการใหม่ ๆ ที่เกี่ยวกับการชำระเงินข้ามพรมแดนผ่านดีไฟ (DeFi) และการโทเคนทรัพย์สินต่าง ๆ โดยมีแผนเปิดตัวกองทุนตลาดเงินที่อ้างอิงบน XRPL ด้วย
หว่อง ยังกล่าวถึงความร่วมมือนี้ว่า มุ่งรวมเครือข่ายของเฮชชีคีแคปิตอลในเอเชีย ซึ่งประกอบด้วยนักลงทุน หน่วยงานกำกับ และสถาบันทางการเงิน เข้ากับความเชี่ยวชาญของริปเปิลในด้านบล็อกเชนและการชำระเงินดิจิทัล
ด้าน ฟิโอนา เมอร์เรย์ กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของริปเปิล ระบุว่า นักลงทุนสถาบันจำนวนมากกำลังมองหาผลิตภัณฑ์คริปโตที่ผ่านการกำกับดูแล และกองทุนนี้จะเป็น “ก้าวแรก” ที่ตอบสนองดีมานด์ของตลาดในเอเชีย
การเปิดตัวกองทุนครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ริปเปิลยุติข้อพิพาททางกฎหมายกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 4 ปี ด้วยการจ่ายค่าปรับรวม 50 ล้านดอลลาร์ หรือราว 710 ล้านบาท ซึ่งเป็นสัญญาณบวกต่อแผนการเปิดตัว ETF ของริปเปิลในตลาดสหรัฐ หลายฝ่ายคาดว่าอย่างน้อย 7 บริษัท กำลังเตรียมยื่นขออนุมัติกองทุน ETF ที่อิง XRP และ “ความคิดเห็น” ของผู้เชี่ยวชาญยังระบุว่า บริษัทใหญ่ระดับแบล็คร็อกและฟิเดลิตี อาจส่งผลิตภัณฑ์เข้าแข่งขันในตลาดนี้ในไม่ช้า
ความคิดเห็น 0