สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) เตรียมพิจารณาคำขอจดทะเบียน ‘กองทุน ETF สินทรัพย์ดิจิทัล’ มากถึง 72 รายการ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่สกุลเงินดิจิทัลหลักอย่างโซลานา(SOL), ดอจคอยน์(DOGE), ริปเปิล(XRP) ไปจนถึงเหรียญมีมอย่างบองค์(BONK)
จากรายงานของอีริก บัลชูนาส นักวิเคราะห์ด้าน ETF ของ Bloomberg ระบุว่า ขณะนี้ SEC ได้รับคำขออนุมัติกองทุน ETF ที่อ้างอิงจากคริปโตหลากหลายประเภท ทั้งจากเหรียญที่มีมูลค่าตลาดสูง และเหรียญที่มีลักษณะเป็นกระแสหรือ ‘มีมโทเคน’ โดยตรง
การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงสองสัปดาห์หลังจากพอล แอตกินส์ ได้รับการแต่งตั้งจากวุฒิสภาสหรัฐให้ดำรงตำแหน่งประธาน SEC คนที่ 34 ทั้งนี้ แอตกินส์ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งใน SEC มาก่อน ได้ชื่อว่าเป็นผู้สนับสนุนแนวทางการกำกับดูแลที่ผ่อนคลาย อย่างไรก็ตาม เขากำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหม่ในการตัดสินใจว่า ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’ ใดควรได้รับการจัดประเภทเป็น ‘สินค้า’ ภายใต้นโยบายของ SEC
ก่อนหน้านี้ในยุคของแกรี เกนส์เลอร์(Gary Gensler) ที่เป็นประธาน SEC หน่วยงานได้อนุมัติการจดทะเบียน ‘อีทีเอฟบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) แบบสปอต’ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่เปิดทางให้กับสินทรัพย์ดิจิทัลตัวอื่น ๆ ที่อาจได้รับการปฏิบัติที่ใกล้เคียงกัน
ด้านมาร์ก อูเยดะ กรรมาธิการ SEC ชั่วคราว ก็เคยแสดงความเห็นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า ‘มีมโทเคน’ มักไม่ถูกมองว่าเป็นหลักทรัพย์ ซึ่งความเห็นดังกล่าวอาจเอื้อต่อการพิจารณา ETF ที่อิงจากเหรียญประเภทนี้
สำหรับกองทุน ETF ริปเปิล(XRP) เอง มีบริษัทรายใหญ่ เช่น แกรย์สเกล, 21Shares, Bitwise, CoinShares, Canary, WisdomTree และ Franklin เข้าร่วมยื่นเอกสารจดทะเบียน S-1 กับ SEC เพื่อขออนุญาตเข้าจดทะเบียนในตลาดของสหรัฐ โดยมีผู้จัดการสินทรัพย์ไม่น้อยกว่า 10 รายเข้าร่วมในครั้งนี้
ขณะเดียวกัน ตลาดซื้อขายอย่าง Cboe และ NYSE Arca ก็ได้ยื่นเอกสารแบบ 19b-4 เพื่อขอความเห็นชอบจาก SEC ในการจัดตั้ง ETF ดังกล่าว ด้านตลาดเดิมพันบน Polymarket ต่างคาดการณ์ว่า โอกาสที่ ETF ของ XRP จะได้รับการอนุมัติในปีนี้อยู่ที่ *สูงถึง 70%*
‘ความคิดเห็น’: ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้อาจสะท้อนถึงจุดเปลี่ยนสำคัญของท่าที SEC ต่ออุตสาหกรรมคริปโต ซึ่งอยู่ภายใต้แรงกดดันให้ปรับแนวทางกำกับให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของตลาดโลก
ความคิดเห็น 0