ตลาดคริปโตเผชิญความผันผวนรุนแรงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา นำไปสู่การถูกบังคับขาย(Force Liquidation)จำนวนมาก โดยข้อมูลจาก CoinGlass เมื่อวันที่ 24 ระบุว่ามูลค่าการบังคับขายรวมอยู่ที่ประมาณ 635.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 9,280 พันล้านวอน ในจำนวนนี้กว่า 560 ล้านดอลลาร์ หรือราว 8,180 พันล้านวอน มาจาก ‘สถานะขายชอร์ต’ เป็นสัญญาณว่าผู้ลงทุนที่เดิมพันในตลาดขาลงขาดทุนอย่างหนัก
บิตคอยน์(BTC) ถือเป็นปัจจัยหลักของปรากฏการณ์นี้ หลังจากราคาพุ่งขึ้นกว่า 6.29% ภายในวันเดียว ทะลุแนวต้านที่ 94,000 ดอลลาร์ มีการชอร์ตถูกชำระออกคิดเป็นมูลค่าสูงถึง 293 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4,270 พันล้านวอน) นับเป็นการบังคับขายที่ใหญ่ที่สุดเมื่อวัดจากสินทรัพย์เดี่ยว
ในขณะเดียวกัน อีเธอเรียม(ETH) ก็แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่คล้ายกัน โดยราคาปรับตัวขึ้นเกือบ 10% แตะระดับ 1,787 ดอลลาร์ และนำไปสู่การชำระสถานะชอร์ตคิดเป็นมูลค่า 109 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1,590 พันล้านวอน ซึ่งสะท้อนถึงแรงกดดันต่อผู้ลงทุนในตลาด ‘อัลท์คอยน์’ หลักเช่นกัน
ในฝั่งของแพลตฟอร์มการซื้อขาย พบว่า ไบแนนซ์มีมูลค่าการบังคับขายมากที่สุด โดยในช่วงเวลา 4 ชั่วโมงล่าสุด เพียงอย่างเดียว มูลค่าการบังคับขายสูงถึง 18.7 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 270 พันล้านวอน) โดยกว่า 78% เป็นสถานะขายชอร์ต ขณะที่อีกสองแพลตฟอร์มหลักอย่าง Bybit และ OKX ก็รายงานอัตราการชำระบัญชีจำนวนมากไม่แพ้กัน สะท้อนถึงระดับความไม่แน่นอนในตลาดที่ยังคงสูงมาก
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า สาเหตุสำคัญที่ขับเคลื่อนราคาคือความคาดหวังต่อ ‘ทรัมป์’ ซึ่งแสดงท่าทีเป็นมิตรต่อคริปโตเคอร์เรนซี และความเป็นไปได้ของการผ่อนคลายกฎเกณฑ์ จึงเกิดสถานการณ์ที่สถานะขายจำนวนมากต้องถูกปิดอย่างเร่งด่วน ส่งผลให้เกิด ‘ชอร์ตสควีซ’ และตลาดมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในทิศทางบวกต่อเนื่องในระยะสั้น
*คำสำคัญ*: บิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH), ตลาดคริปโต, ชอร์ตสควีซ, CoinGlass, ไบแนนซ์, ทรัมป์
*ความคิดเห็น*: หากแนวโน้มบวกจากปัจจัยภายนอกยังต่อเนื่อง นักลงทุนฝั่งขายน่าจะยังต้องเฝ้าระวังระดับความเสี่ยงในพอร์ตอย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0