อีเธอเรียม(ETH) ร่วงลง 36% ตลอด 7 สัปดาห์ที่ผ่านมา สร้างความกังวลให้กับนักลงทุน อย่างไรก็ตาม กระแสการไหลออกของเหรียญในปริมาณมากอาจเปลี่ยนทิศทางตลาดได้
ตามรายงานของบริษัทวิเคราะห์คริปโต ‘ซานติเมนท์’ (Santiment) ระบุว่า ระหว่างวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ มีอีเธอเรียมจำนวน 224,410 ETH (มูลค่าประมาณ 3,268 พันล้านวอน) ถูกถอนออกจากเว็บเทรด นี่ถือเป็น ‘กระแสไหลออกที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 23 เดือน’ ซึ่งอาจแสดงให้เห็นว่านักลงทุนกำลังเลือกถือครองเหรียญในระยะยาว ปกติแล้วเมื่อสินทรัพย์คริปโตถูกโอนออกจากเว็บเทรดไปยังวอลเล็ตส่วนตัว แรงขายมักลดลง ทำให้โอกาสในการปรับตัวขึ้นของราคาเพิ่มขึ้น
หลังจากการเคลื่อนย้ายครั้งใหญ่ ราคา ETH ปรับตัวขึ้นจากระดับ 2,850 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3.5% สู่ 2,950 ดอลลาร์ ในช่วงเวลาเดียวกัน ปริมาณซื้อขายอีเธอเรียมในเว็บเทรดหลักก็เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะที่ไบแนนซ์ มีการซื้อขาย ETH มากถึง 1.2 ล้านเหรียญ คิดเป็นมูลค่ารวม 3.4 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4.93 ล้านล้านวอน) นอกจากนี้ บิตคอยน์(BTC) ก็มีแนวโน้มเดียวกัน โดยมี BTC จำนวน 10,000 เหรียญ (มูลค่าประมาณ 145 พันล้านวอน) ถูกถอนออกจากเว็บเทรด
ความเคลื่อนไหวของเครือข่ายอีเธอเรียมก็แสดงสัญญาณเชิงบวกเช่นกัน จำนวนที่อยู่ ETH ที่มีการใช้งานเพิ่มขึ้น 8% แตะ 500,000 ที่อยู่ ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่ออนาคตของเครือข่าย อย่างไรก็ตาม ปัจจัยกดดันในระยะสั้นยังคงมีอยู่ ทั้งจากนโยบายภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ และกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นเกี่ยวกับโมเดล ‘สเตกกิ้ง’ ของ ETH แต่ตลาดส่วนใหญ่มองว่านี่เป็นเพียงอุปสรรคชั่วคราว โดยแนวโน้มระยะยาวยังคงเป็นบวก
ด้านการวิเคราะห์ทางเทคนิค ก็มีสัญญาณที่ดีขึ้น ดัชนี RSI อยู่ที่ระดับ 65 ชี้ให้เห็นว่าราคายังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ ขณะที่ MACD แสดงสัญญาณภาวะกระทิง นอกจากนี้ ‘โบลินเจอร์แบนด์’ ยังบ่งชี้ถึงความผันผวนที่เพิ่มสูงขึ้น และราคา ETH กำลังเคลื่อนไหวไปสู่โซนบนของแบนด์ ซึ่งอาจเปิดช่องให้เกิดแรงซื้อเพิ่มขึ้นอีก
นักวิเคราะห์ตลาดคริปโต อาลี มาร์ติเนซ (Ali Martinez) กล่าวว่า “อีเธอเรียมกำลังส่งสัญญาณซื้อผ่าน TD Sequential ทั้งในกรอบเวลารายสัปดาห์และรายวัน ซึ่งแสดงถึงโอกาสในการฟื้นตัวของราคา” ขณะที่มุมมองเชิงบวกเริ่มกลับมา การเคลื่อนไหวของ ETH ในช่วงถัดไปจึงเป็นที่จับตามอง
ความคิดเห็น 0