ศูนย์ร้องเรียนอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ตของ FBI (IC3) เปิดเผยในรายงานประจำปี 2024 ว่าความเสียหายจากการหลอกลวงที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลเพิ่มขึ้นถึง 66% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า คิดเป็นมูลค่าราว 9.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.2 แสนล้านบาท)
ตามข้อมูลของ IC3 มีการรายงานการหลอกลวงเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 140,000 กรณีในปีที่ผ่านมา ‘ผู้สูงอายุ’ ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปมีการแจ้งความถึง 33,000 กรณี โดยมูลค่าความเสียหายรวมอยู่ที่ราว 2.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 9.7 หมื่นล้านบาท) ซึ่งกลุ่มผู้สูงอายุแสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นที่โดดเด่นทั้งในแง่ของจำนวนคดีและมูลค่าความเสียหาย
เมื่อเทียบกับปี 2023 ซึ่งมีมูลค่าความเสียหาย 5.6 พันล้านดอลลาร์ ความเสียหายในปี 2024 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การฉ้อโกงด้านการลงทุนยังคงเป็นประเภทที่สร้างความเสียหายมากที่สุด ขณะที่การหลอกลวงรูปแบบอื่นอย่าง ‘เซกซ์ทอร์ชัน’ ที่ใช้ข้อมูลส่วนตัวข่มขู่เรียกเงิน และการหลอกลวงผ่านตู้ ATM สกุลเงินดิจิทัลก็ถูกระบุว่าเป็นกลโกงสำคัญเช่นกัน
นอกจากนี้ การโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ก็เพิ่มขึ้น 9% จากปีก่อนหน้า ก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อโครงสร้างพื้นฐานระดับชาติ ขณะเดียวกัน รูปแบบการหลอกลวงที่เรียกว่า ‘Pig Butchering’ ซึ่งเคยมุ่งเป้าไปที่ผู้สูงอายุ กำลังขยายวงสู่กลุ่มอายุ 30-49 ปีมากขึ้น ล่าสุด งานวิจัยจาก ไซเบอร์ส(Cyvers) ระบุว่า มีการหลอกลวงมากกว่า 200,000 ครั้งใน 150 แพลตฟอร์มสกุลเงินดิจิทัลหลัก ความเสียหายรวมสูงถึง 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
เพื่อรับมือกับการหลอกลวงการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล FBI และหน่วยสืบราชการลับสหรัฐฯ ได้เปิดปฏิบัติการ ‘Operation Level Up’ ซึ่งสามารถแจ้งเตือนเหยื่อได้ถึง 4,323 ราย โดย 76% ของเหยื่อเหล่านี้ ‘ไม่รู้ตัว’ ว่าตนเองถูกหลอกลวง จากปฏิบัติการดังกล่าว ทำให้สามารถป้องกันความเสียหายเพิ่มเติมได้ถึง 285.6 ล้านดอลลาร์ และช่วยเหลือเหยื่อ 42 รายที่มี ‘ความเสี่ยงในการฆ่าตัวตาย’ ด้วยการให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญของ FBI
‘การฉ้อโกงในวงการคริปโตยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และจำเป็นต้องมีการรับมืออย่างจริงจัง’ ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญระบุ
ความคิดเห็น 0