บริษัทเกมจากโตเกียวอย่าง ‘กูมิ(Gumi Inc.)’ ได้ประกาศแผนเข้าซื้อ ‘บิตคอยน์(BTC)’ มูลค่า 10,000 ล้านเยน (ประมาณ 95.3 พันล้านวอน) ซึ่งสะท้อนให้เห็นกระแสการนำคริปโตเคอร์เรนซีมาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางการเงินของบริษัทญี่ปุ่นที่ทวีความชัดเจนขึ้น
กูมิระบุว่ามีแผนเข้าซื้อบิตคอยน์เป็นระยะจนถึงเดือนพฤษภาคม 2025 ควบคู่ไปกับการขยายธุรกิจด้านบล็อกเชน บริษัทมองว่าบิตคอยน์จะเป็น ‘สินทรัพย์สำคัญ’ สำหรับการสร้างเสถียรภาพทางการเงินและการเสริมสร้างสถานะของตนในระบบนิเวศ ‘เว็บ3(Web3)’
นอกเหนือจากกลยุทธ์การถือครอง กูมิยังเดินหน้าสร้างโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชนที่ใช้บิตคอยน์ โดยทางบริษัทได้ประกาศเข้าร่วมเป็น ‘ผู้ตรวจสอบธุรกรรม (validator)’ บน ‘บาบิโลนโปรโตคอล(Babylon Protocol)’ ซึ่งเป็นบริษัทแรกในญี่ปุ่นที่มีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว บริษัทวางแผนใช้วิธี ‘บิตคอยน์สเตกกิ้ง’ เพื่อสร้างรายได้จากการตรวจสอบเครือข่าย พร้อมกับบันทึกผลกำไรและขาดทุนตามมาตรฐานบัญชี
ปัจจุบัน การที่บริษัทญี่ปุ่นหันมาลงทุนในบิตคอยน์กำลังกลายเป็นแนวโน้มที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ ‘เมตาแพลนเน็ต(Metaplanet)’ บริษัทบริหารสินทรัพย์ที่ใช้กลยุทธ์ทางการเงินโดยเน้นการถือครองบิตคอยน์เป็นหลัก ข้อมูลล่าสุดระบุว่า บริษัทถือครองอยู่ที่ 1,762 BTC และมีแผนขยายการถือครองเป็น 10,000 BTC ภายในสิ้นปีนี้
นโยบายภาครัฐของญี่ปุ่นก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนทิศทางนี้ โดยเมื่อเดือนมิถุนายน 2023 กรมสรรพากรญี่ปุ่นได้ประกาศยกเว้นภาษีนิติบุคคล 30% สำหรับผู้ออกสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งช่วยลดภาระทางภาษี และกระตุ้นให้บริษัทต่าง ๆ มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมคริปโตมากขึ้น
การตัดสินใจของกูมิแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของบริษัทญี่ปุ่นที่ขยับจากการมองบิตคอยน์เป็นเพียงสินทรัพย์เพื่อการลงทุน ไปสู่การใช้เป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักในเชิงธุรกิจ ซึ่งอาจช่วยผลักดันให้ญี่ปุ่นก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมคริปโตและเว็บ3 ได้มากขึ้น
ความคิดเห็น 0