โอไนฟริก(Onafriq) ผู้ให้บริการเกตเวย์ชำระเงินรายใหญ่ที่สุดในแอฟริกา จับมือกับเซอร์เคิล(Circle) ผู้ออกเหรียญสเตเบิลคอยน์ชื่อดัง สร้างระบบชำระเงินข้ามพรมแดนโดยอิงจากเหรียญยูเอสดีซี(USDC) เพื่อทดลองใช้งานในภูมิภาคแอฟริกา ความร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ *ลดต้นทุนค่าธรรมเนียมการโอนเงินระหว่างประเทศ* และ *ส่งเสริมความเชื่อมั่นต่อบริการการเงินดิจิทัล* ในทวีปแอฟริกา
เมื่อวันที่ 10 เซอร์เคิลเปิดเผยผ่านแถลงการณ์ว่า บริษัทเตรียมผนวกรวมยูเอสดีซีเข้ากับระบบชำระเงินของโอไนฟริก เพื่อให้เกิดการ ‘ประมวลผลธุรกรรมแบบเรียลไทม์’ โดยโอไนฟริกเป็นเครือข่ายการชำระเงินขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกระเป๋าเงินดิจิทัลกว่า 500 ล้านบัญชี และบัญชีธนาคารอีก 200 ล้านบัญชี ครอบคลุมมากกว่า 40 ประเทศในทวีปแอฟริกา การรวมกันของโครงสร้างพื้นฐานนี้กับเทคโนโลยีของเซอร์เคิล ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่มีเป้าหมายในการ ‘พลิกโฉมระบบชำระเงินดิจิทัลในระดับภูมิภาค’
ดาเร โอโควุดโจ(Dare Okoudjou) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของโอไนฟริก ให้ความเห็นว่า “การนำยูเอสดีซีมาใช้จะช่วยให้การทำธุรกรรมการเงินภายในแอฟริกามีความเรียบง่ายมากขึ้น ค่าธรรมเนียมลดลง และเพิ่มความเชื่อถือในบริการการเงินดิจิทัลในวงกว้าง”
ปัจจุบันกว่า *80%* ของธุรกรรมข้ามพรมแดนในทวีปแอฟริกาจะต้องผ่านธนาคารตัวกลางในยุโรปหรือสหรัฐ เป็นเหตุให้มีต้นทุนค่าธรรมเนียมสูงถึง *500 ล้านดอลลาร์* ต่อปี หรือราว *7,300 ล้านบาท* ความร่วมมือระหว่างเซอร์เคิลและโอไนฟริก มีเป้าหมายที่จะใช้ยูเอสดีซีเป็นตัวกลาง เพื่อปรับโครงสร้างต้นทุนดังกล่าวให้น้อยลงอย่างมีประสิทธิภาพ
มิเฮียม คีวาน(Miriam Kiwan) รองประธานฝ่ายตะวันออกกลางและแอฟริกาของเซอร์เคิล กล่าวเสริมว่า “แอฟริกาเป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพสูงในการนำสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะสเตเบิลคอยน์ มาใช้ในระบบการเงินข้ามพรมแดน เซอร์เคิลมีเป้าหมายที่จะเชื่อมต่อเศรษฐกิจแอฟริกาเข้ากับโครงสร้างชำระเงินดิจิทัลที่ปลอดภัยและโปร่งใส”
ก่อนหน้านี้ เซอร์เคิลได้ยื่นคำร้องขอจดทะเบียนเสนอขายหุ้น(IPO) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ในเดือนที่ผ่านมา เพื่อเตรียมขยายธุรกิจเหรียญสเตเบิลคอยน์อย่างเต็มรูปแบบในระดับโลก ซึ่งความเคลื่อนไหวล่าสุดกับโอไนฟริกครั้งนี้ ถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญในการแสดง *ศักยภาพการใช้งานจริงของ USDC* บนเวทีโลก
ความคิดเห็น 0