บิตคอยน์(BTC) พุ่งทะลุระดับ 95,460 ดอลลาร์ สร้างสถิติสูงสุดในรอบ 2 เดือน มูลค่าตลาดรวมแตะ 1.88 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่ปริมาณการซื้อขายรายวันเพิ่มขึ้น 13% แตะระดับ 28,000 ล้านดอลลาร์ โดยราคาในขณะนี้ยังเคลื่อนไหวเหนือ ‘แนวรับสำคัญ’ ที่ช่วง 90,000–92,000 ดอลลาร์
ในบริบทของตลาดที่คึกคักนี้ อาเธอร์ เฮย์ส(Arthur Hayes) ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนของเมลสตรอม(Maelstrom) ได้แสดงความเห็นอีกครั้งระหว่างการประชุม Token2049 ที่นครดูไบว่า *บิตคอยน์จะทะยานไปแตะระดับ 1 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2028* พร้อมชี้ปัจจัยหนุนใหญ่คือ ‘สภาพคล่องของดอลลาร์’ ที่กำลังไหลกลับเข้าสู่ระบบ
เฮย์สกล่าวว่า สหรัฐฯ กำลังก้าวเข้าสู่รอบใหม่ของการอัดฉีดสภาพคล่องเช่นเดียวกับช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2022 ที่ธนาคารกลางสหรัฐ(Fed) เคยอัดฉีดเงินกว่า 2.5 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อกู้วิกฤต FTX และกดดันความกังวลเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งเขามองว่าการฟื้นฟูสภาพคล่องในลักษณะเดียวกันนี้ *จะเป็นแรงผลักดันให้เกิดกระทิงลูกใหม่ในตลาดคริปโต*
ขณะเดียวกัน ‘ตลาดโลก’ ยังคงเผชิญความไม่แน่นอน โดยเฉพาะหลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศแผนเรียกเก็บภาษีนำเข้าสูงกับประเทศคู่ค้ารายใหญ่ แม้ว่ามาตรการดังกล่าวจะได้รับการเลื่อนบังคับใช้ 90 วัน แต่นักลงทุนยังแสดงท่าทีระมัดระวัง
เฮย์สยังตั้งข้อสังเกตว่า ในสมัยของทรัมป์ ‘เจอโรม พาวเวลล์’ ประธาน Fed อาจไม่เข้าแทรกแซงเพื่อลดแรงตึงเครียดในตลาดแบบที่เคยทำ แต่เขามองว่าการที่กองทุนเฮดจ์ฟันด์เริ่มกลับเข้ามาซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อย่างเงียบๆ อาจเป็นสัญญาณว่าตลาดกำลังได้รับแรงหนุนจากสภาพคล่องอีกระลอก
“ทั้งหมดนี้คือปัจจัยสร้าง ‘สภาพแวดล้อมเอื้อต่อการเติบโตของบิตคอยน์’ ซึ่งจะกระตุ้นให้นักลงทุนหันมาถือครองสินทรัพย์ที่มีมูลค่าในระยะยาวอย่างบิตคอยน์ สิ่งนี้เองที่จะผลักดันราคาไปแตะหลัก 1 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2028” เฮย์สกล่าว
ในอีกด้านหนึ่ง เจฟฟรีย์ เคนดริก นักวิเคราะห์จากสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดมองว่า ราคาบิตคอยน์จะพุ่งแตะ 120,000 ดอลลาร์ในไตรมาส 2 ของปีนี้ และตั้งเป้าราคาบิตคอยน์ปลายปีไว้ที่ 200,000 ดอลลาร์ โดยอ้างอิงจากปัจจัยหนุนอย่างกระแสเงินทุนที่ไหลเข้ากองทุน ETF การเข้าร่วมของนักลงทุนสถาบัน และความคืบหน้าของร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับเหรียญเสถียรค่า(*Stablecoin*)
ความคิดเห็น 0