โทเค็นทองคำได้รับการจับตามองมากขึ้นในฐานะทางเลือกที่มีความได้เปรียบเหนือกว่ากองทุนทองคำแบบดั้งเดิม เช่น กองทุน ETF โดยเฉพาะในภาวะที่ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ยังคงกดดันตลาดการเงินโลก
เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) Cointelegraph เปิดเผยบทสัมภาษณ์ของเมลิสซา ซงและดัสติน เบคเคอร์ จากโกลด์ดาว(Gold DAO) ซึ่งเป็นองค์กรอัตโนมัติแบบกระจายศูนย์ (DAO) ที่มุ่งให้บริการการลงทุนในทองคำจริงรูปแบบโทเค็น โดยทั้งสองได้ชี้ให้เห็นถึงข้อดีที่แตกต่างของ ‘ทองคำแบบโทเค็น’ ซึ่งสะท้อนถึงการบรรจบกันของสินทรัพย์ดั้งเดิมและนวัตกรรมบล็อกเชน
ข้อแรก ทองคำแบบโทเค็นให้ ‘สิทธิความเป็นเจ้าของที่แท้จริง’ เนื่องจากสามารถแลกเปลี่ยนเป็นทองคำจริงแบบ 1:1 โดยมีหมายเลขเฉพาะกำกับในทุกหน่วยโทเค็น ซึ่งแตกต่างจากการลงทุนผ่าน ETF ที่เป็นเพียงการอ้างอิงราคา โดยผู้ถือโทเค็นสามารถขอรับทองคำทางกายภาพตามจำนวนที่ถือครองได้จริง
ข้อสอง โทเค็นทองมีศักยภาพในการนำไปใช้เป็น ‘หลักทรัพย์ค้ำประกัน’ บนแพลตฟอร์มการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) ช่วยให้สามารถต่อยอดสู่บริการทางการเงินอื่น ๆ เช่น การกู้ยืมและการให้ผลตอบแทนได้
ข้อสาม ความสามารถในการเข้าถึงสภาพคล่องแบบ ‘ออนดีมานด์’ ทำให้การซื้อขายทองคำในรูปแบบโทเค็นมีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซงระบุว่า “การลงทุนใน ETF เป็นเพียงการเก็งกำไรจากราคาทอง ไม่ใช่การถือครองโลหะมีค่าโดยตรง”
ทางโกลด์ดาวยังระบุว่า จุดแข็งของโทเค็นทองกำลังได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นท่ามกลางสภาวะตลาดที่ทองคำกลับมาเป็นที่ต้องการ โดยเฉพาะในปี 2025 ที่ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นจากปัจจัยเสี่ยงด้านหนี้สาธารณะมูลค่ามหาศาลของรัฐบาลสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนทางการเมืองสากลที่ยังดำเนินอยู่
ในมุมมองของนักวิเคราะห์ ‘ทองคำแบบโทเค็น’ กำลังเปลี่ยนสถานะจากสินทรัพย์ปลอดภัยไปสู่การเป็น ‘เครื่องมือทางการเงิน’ เต็มรูปแบบ สะท้อนแนวโน้มที่เขตแดนระหว่างสินทรัพย์ดิจิทัลและสินทรัพย์จริงกำลังเลือนลางลงอย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น 0