แพลตฟอร์มการชำระเงินระดับโลกอย่างบังซา(Banxa) ได้รับการอนุมัติ KYB (กระบวนการตรวจสอบตัวตนขององค์กร) ส่งผลให้สามารถกลับมาให้บริการ พาย(Pi) เน็ตเวิร์ก ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก การพัฒนาดังกล่าวถูกมองว่าเป็นอีกหนึ่ง ‘จุดเปลี่ยน’ สำคัญในการขยายตัวของโครงการพายในระดับสากล
ก่อนหน้านี้ บังซาเคยระงับการให้บริการซื้อขายพายชั่วคราว เนื่องจากประเด็นด้านการอนุมัติ KYB แม้ในขณะนั้นบริษัทจะถือครองพายหลายล้านโทเคนในราคาต่ำแล้วก็ตาม แต่อาศัยการปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย บริษัทจึงสามารถกลับมาให้บริการได้อีกครั้งหลังได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการ
ตามข้อมูลจาก ดร. อัลท์คอยน์(Dr. Altcoin) นักวิเคราะห์สายคริปโตชื่อดัง ระบุว่า การอนุมัติ KYB ของบังซาช่วยให้ผู้ใช้ในกว่า 100 ประเทศสามารถซื้อพายด้วยเงินสดได้ทันที ซึ่งถือเป็นการเพิ่ม *การเข้าถึง* และ *การยอมรับในระดับสากล* ให้กับเน็ตเวิร์กนี้ในวงกว้าง
ด้านสถานการณ์ของตลาดยังมีข่าวดีเพิ่มเติม เพราะ BitMart และ HTX สองแพลตฟอร์มเทรดคริปโตชื่อดัง ก็มีแนวโน้มจะได้รับอนุมัติ KYB ภายในอีกไม่เกิน 10 วันข้างหน้า สะท้อนถึง *การสนับสนุนจากสถาบัน* ที่เริ่มเกิดขึ้นต่อโครงการพาย ซึ่งในเชิงนโยบาย การซื้อขายพายจะสามารถดำเนินการได้ ‘อย่างถูกกฎหมาย’ เฉพาะกับบริษัทที่ได้รับอนุมัติ KYB เท่านั้น ส่วนบุคคลทั่วไปที่ต้องการเทรดในรูปแบบ P2P จำเป็นต้องผ่านขั้นตอน KYC (ยืนยันตัวตน) และใช้วอลเล็ตแบบไม่ฝากสินทรัพย์กับบุคคลที่สาม
ในส่วนของราคาพาย ณ ปัจจุบัน ยังคงปรับตัวในทิศทางบวก โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 2.5% มาอยู่ที่ระดับ 0.60 ดอลลาร์ ซึ่งถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่น่าจับตา *แม้จะมีแรงกดดันจากการปลดล็อกโทเคนอย่างต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้านี้* ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าจังหวะของการปลดโทเคนในช่วงครึ่งหลังของเดือนพฤษภาคมจะเริ่มชะลอลง ซึ่งอาจช่วยลดแรงขายในตลาดลงตามไปด้วย สำหรับแนวต้านสำคัญถัดไปอยู่ที่ระดับ 0.70 ดอลลาร์ และหากสามารถทะลุผ่านได้ *ราคาพายอาจมีแนวโน้มแตะระดับ 1 ดอลลาร์ได้ในไม่ช้า* ตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญในแวดวงคริปโต
ความคิดเห็น 0