จางเผิง เจ้า ผู้ก่อตั้งไบแนนซ์ เสนอให้รัฐบาลคีร์กีซสถานพิจารณานำ *บิตคอยน์(BTC)* และ *บีเอ็นบี(BNB)* มาใช้เป็นสินทรัพย์สำรองของรัฐ โดยให้เหตุผลว่าเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มี *ความน่าเชื่อถือและมีประโยชน์ในทางปฏิบัติ* ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
เมื่อวันที่ 24 จางเผิง เจ้า ได้โพสต์ภาพรถยนต์ที่มีป้ายทะเบียน ‘BNB’ ลงในทวิตเตอร์ พร้อมกล่าวแนะนำว่ารัฐบาลคีร์กีซสถานควรพิจารณา *บิตคอยน์(BTC)* และ *บีเอ็นบี(BNB)* เป็นสินทรัพย์สำรองระดับประเทศ ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่รัฐนำคริปโตมาใช้ในลักษณะนี้
โดยปกติแล้ว รัฐบาลทั่วโลกใช้ทองคำหรือเงินตราต่างประเทศเป็นสินทรัพย์สำรอง แต่จากปัญหาเงินเฟ้อทั่วโลก ความไม่มั่นคงของระบบธนาคาร และการยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น การ *เตรียมครอบครองสินทรัพย์ดิจิทัลในระดับรัฐ* จึงกลายเป็นข้อถกเถียงเชิงนโยบายที่สำคัญ
ความคิดเห็นจากจางเผิง เจ้า ระบุว่า การนำ *บิตคอยน์* และ *บีเอ็นบี* มาเป็นสินทรัพย์สำรองจะ *ช่วยให้รัฐบาลเปิดรับสินทรัพย์ดิจิทัลในฐานะ ‘ทองคำดิจิทัล’ หรือ ‘สกุลเงินระหว่างประเทศในยุคใหม่’* ได้มากขึ้น
สำหรับ *บิตคอยน์* นั้นได้รับฉายาว่า ‘ทองคำดิจิทัล’ ด้วยคุณสมบัติที่มีจำนวนจำกัดและระบบที่ไร้ศูนย์กลาง ส่วน *บีเอ็นบี* ซึ่งสร้างขึ้นโดยไบแนนซ์ มีประโยชน์เป็นวงจรภายในระบบนิเวศของไบแนนซ์ เช่น ใช้ลดค่าธรรมเนียมการซื้อขาย หรือชำระค่าธรรมเนียมสมาร์ตคอนแทรกต์
ขณะเดียวกัน รัฐบาลคีร์กีซสถานได้แสดงความเคลื่อนไหวในด้านสินทรัพย์ดิจิทัลมาก่อนหน้านี้แล้ว โดยเมื่อเดือนที่แล้ว ได้มีการลงนามในร่างกฎหมายเกี่ยวกับ *โครงการเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง* หรือ *ดิจิทัลซอม (Digital Som)* ซึ่งจะเริ่มนำร่องใช้งานในปี 2025 และมอบอำนาจเต็มแก่ธนาคารกลางในการออกและบริหารเงินดิจิทัลดังกล่าว
หากรัฐบาลคีร์กีซสถานตัดสินใจตอบรับข้อเสนอของจางเผิง เจ้า ก็จะนับเป็นอีกก้าวสำคัญของกระแส *การเปลี่ยนคริปโตให้เป็นเครื่องมือทางเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการ* ในระดับรัฐทั่วโลก
ความคิดเห็น 0