ราวล์ พาล(Raoul Pal) ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจมหภาค เปิดเผยทฤษฎีตลาดใหม่ในชื่อ ‘Banana Zone’ ระหว่างการบรรยายที่ดูไบ พาลระบุว่าปัจจุบันเป็นช่วงที่ *สภาพคล่องทั่วโลกเพิ่มขึ้น* และ *จิตวิทยานักลงทุนอยู่ในจุดต่ำสุด* จึงอาจเป็นจังหวะเข้าสู่ *ตลาดกระทิงครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์*
แม้บรรยากาศในตลาดคริปโตจะยังคงปกคลุมด้วยความรู้สึก *ตลาดหมี* พาลยืนยันว่า กำลังเกิดการ *เตรียมตัวเพื่อเข้าสู่ช่วงเติบโตแบบก้าวกระโดด* ซึ่งเขาเรียกว่า ‘Banana Zone’
ประเด็นสำคัญคือความสัมพันธ์ระหว่าง *สภาพคล่อง* กับ *ราคาสินทรัพย์* โดยเขาชี้ว่า การเคลื่อนไหวของ *บิตคอยน์(BTC)* ราว 90% และ *ดัชนีแนสแด็ก* ถึง 97% นั้นมีความเกี่ยวข้องกับ *การเปลี่ยนแปลงของสภาพคล่อง* นอกจากนี้ เขาอธิบายว่า ในแต่ละปีมูลค่าทรัพย์สินทั่วโลกจะ *ลดลงเฉลี่ย 11%* จากการ *ลดค่าของสกุลเงิน* 8% และ *เงินเฟ้อ* 3% ทำให้นักลงทุนต้องมองหาโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น
เขายังกล่าวถึงกลุ่ม *เจเนอเรชันมิลเลนเนียล* ว่าเป็นกลุ่มที่เผชิญกับอุปสรรคในการลงทุนแบบดั้งเดิมเนื่องจาก *ราคาบ้านสูงเกินเอื้อม* เป็นเหตุให้มีแนวโน้มเลือกลงทุนในคริปโต แม้จะต้องรับความผันผวนมากขึ้น
บิตคอยน์นับตั้งแต่ปี 2012 สร้างผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีถึง *130%* และในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาราคาเพิ่มขึ้น *48.4%* เฉพาะในช่วง 30 วันที่ผ่านมา ราคาขยับขึ้น *13.3%* ไปแตะระดับ *94,600 ดอลลาร์* (ประมาณ 13,400,000 บาท) ขณะที่ 2 สัปดาห์ล่าสุด บิตคอยน์ปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก *8.2%*
พาลเปรียบเทียบสถานการณ์ปัจจุบันกับสิ่งที่เกิดขึ้นในปี 2020 และ 2009 โดยมองว่า *นักลงทุนรายย่อย* ได้เข้าสู่ตลาดเรียบร้อยแล้ว และ *นักลงทุนสถาบัน* กำลังจะตามมาในเร็วๆ นี้ โดยเขาระบุว่า *ตลาดบิตคอยน์* ได้ก้าวเข้าสู่ขั้นที่ 3 หรือ ‘ขั้นคลั่ง’ ของกรอบแนวคิด Banana Zone แล้ว ซึ่งในเฟสนี้ เขาคาดว่า ราคาบิตคอยน์อาจพุ่งไปแตะระดับ *250,000 ถึง 450,000 ดอลลาร์* ขณะที่ *เหรียญอัลท์คอยน์* มีศักยภาพให้ผลตอบแทนถึง *20 เท่า* คล้ายกับตลาดกระทิงในปี 2017
ความคิดเห็นของเขาคือ นักลงทุนควร *รักษาความใจเย็น* หลีกเลี่ยงการใช้ *เลเวอเรจและไม่ตกเป็นเหยื่อของกลโกง* ควรจัดเก็บคริปโตอย่างปลอดภัย และที่สำคัญคือ *ติดตามแนวโน้มสภาพคล่อง* พร้อมปรับตัวตามตัวชี้วัดเศรษฐกิจมหภาคที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดนิ่ง
ความคิดเห็น 0