พรรคเดโมแครตในสหรัฐฯ เริ่มเปิดฉากโจมตีอย่างจริงจังต่อท่าทีของทรัมป์ที่เกี่ยวข้องกับคริปโต โดยมีเป้าหมายที่โครงการ ‘ทรัมป์คอยน์’ รวมถึงมีมคอยน์อื่น ๆ ที่เกี่ยวพันกับเขา ผ่านการเดินหน้าทั้งในด้านกฎหมายและการตรวจสอบ เพื่อจำกัดไม่ให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงในตำแหน่งปัจจุบันสามารถแสวงหาผลประโยชน์จากคริปโตได้อีกต่อไป
เมื่อวันที่ 6 (เวลาท้องถิ่น) คริส เมอร์ฟี วุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครต แถลงอย่างเป็นทางการว่า เขาเตรียมเสนอร่างกฎหมาย ‘พระราชบัญญัติการปราบปรามผลประโยชน์ทับซ้อนและการประพฤติมิชอบยุคใหม่’ หรือชื่อย่อ ‘MEME’ เพื่อสกัดกั้นการมีส่วนร่วมของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในการออก หรือโปรโมตสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงคริปโตเคอร์เรนซีด้วย
เนื้อหาในร่างกฎหมายนี้จะครอบคลุมประธานาธิบดี รองประธานาธิบดี สมาชิกสภาคองเกรส เจ้าหน้าที่ระดับสูงของฝ่ายบริหาร รวมถึงคู่สมรสและบุตรของพวกเขา โดยห้ามไม่ให้บุคคลในกลุ่มนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการออก, สนับสนุน หรือประชาสัมพันธ์หลักทรัพย์ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า สินค้าโภคภัณฑ์ และ *สินทรัพย์ดิจิทัล*
เมอร์ฟีเผยผ่านโซเชียลมีเดียว่า “ทรัมป์คอยน์คือหนึ่งในกรณีที่ *ฉ้อฉลที่สุดในประวัติศาสตร์ของทำเนียบขาว*” พร้อมย้ำว่า จะ *ไม่ยอมรับให้เจ้าหน้าที่รัฐนำอำนาจหน้าที่ตนเองมาแสวงหากำไรในวงการคริปโต* อีกต่อไป โดยเขาร่วมผลักดันร่างกฎหมายฉบับนี้กับ มาร์โก ริคาร์โด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครต
นอกจากจำกัดรายได้จากคริปโตแล้ว *MEME law* ยังมุ่งตัดวงจรการใช้ทรัพย์สินที่มีกระแสมหาชนอย่างมีมคอยน์ เพื่อลดความเสี่ยงของการใช้อำนาจโดยมิชอบหรือบิดเบือนกลไกตลาด ทั้งนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่าทรัมป์อาจใช้การออกมีมคอยน์ที่เกี่ยวเนื่องกับตัวเขาเพื่อกระตุ้นสายสัมพันธ์ทางอารมณ์กับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง พร้อมเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจควบคู่กันไป
ในอีกด้านหนึ่ง คณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรที่ดูแลด้านจริยธรรมได้เริ่มเปิดการสอบสวนโครงสร้างรายได้และปัญหาทางจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับโครงการคริปโตของทรัมป์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการขยับของกลไกทางกฎหมายเพื่อสกัดกั้นกิจกรรมจากฝั่งทรัมป์อย่างชัดเจน
เนื่องจากกรณีของทรัมป์ถือเป็น *ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ประธานาธิบดีเข้ามาเกี่ยวข้องโดยตรงกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจผ่านคริปโต* ร่างกฎหมาย MEME จึงอาจจุดประกาย *การถกเถียงเรื่องจริยธรรมของเจ้าหน้าที่รัฐในการถือครองหรือมีส่วนร่วมในสินทรัพย์ดิจิทัล* ในวงกว้างมากขึ้น และอาจกลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองในวอชิงตันในไม่ช้า ความชัดเจนระหว่าง ‘อำนาจรัฐ’ กับ ‘คริปโต’ จึงกำลังถูกตั้งคำถามอย่างจริงจังในเวลานี้
ความคิดเห็น 0