Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

ไอโอฟินเน็ตเปิดตัวเทคโนโลยี tMPC ยกระดับความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัล หลังเหตุแฮ็กใหญ่ปี 2025

ไอโอฟินเน็ตเปิดตัวเทคโนโลยี tMPC ยกระดับความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัล หลังเหตุแฮ็กใหญ่ปี 2025 / Tokenpost

ไอโอฟินเน็ต(io.finnet) แพลตฟอร์มรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัลที่ก่อตั้งโดยอดีตพนักงานจากกระดานเทรดชื่อดังอย่าง ไบแนนซ์(Binance), บิตฟินิกซ์(Bitfinex) และผู้เชี่ยวชาญจากภาคการเงิน ได้เปิดเผยโซลูชันการรับฝากสินทรัพย์ใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี ‘คอมพิวเตอร์หลายฝ่ายแบบไม่ต้องเชื่อถือ’ หรือ tMPC (trustless Multi-Party Computation) จุดประสงค์คือเพื่อยกระดับความปลอดภัยในการบริหารจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล โดยจะมีการจัดแสดงฟีเจอร์ของแพลตฟอร์มนี้ในงาน Consensus 2025 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-16 พฤษภาคม ณ เมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา

เทคโนโลยี tMPC ของไอโอฟินเน็ตถูกออกแบบมาเพื่อเปลี่ยนแปลงแนวทางการควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลจากเดิมที่ต้องพึ่งพาบุคคลที่สาม ให้กลายเป็นการควบคุมแบบ ‘รับฝากด้วยตนเองอย่างแท้จริง’ โดยที่ไม่มีฝ่ายใดถือครองคีย์ร่วม ระบบยังได้ออกแบบให้มีการแบ่งพื้นที่เก็บรักษาแต่ละพอร์ตโฟลิโอออกจากกันอย่างสิ้นเชิงเพื่อความปลอดภัยและความเป็นอิสระในการดำเนินงานสำหรับผู้ประกอบการสถาบัน

ในปัจจุบัน มีบริษัทขนาดเล็กกว่า 1,500 ราย เช่น OTC เดสก์, กองทุน, โปรโตคอลดีไฟ และผู้ให้บริการสภาพคล่อง(มาร์เก็ตเมกเกอร์) ใช้บริการของไอโอฟินเน็ต ความสามารถสำคัญของระบบ ได้แก่ การฝากสินทรัพย์แบบกระจายความเป็นเจ้าของคีย์, รองรับเครือข่ายบล็อกเชนหลากหลายไม่ว่าจะเป็นอีเธอเรียม(ETH) หรือพอลิกอน(MATIC), ยกเว้นค่าธรรมเนียมการฝากและการทำธุรกรรมไม่จำกัดปริมาณ รวมถึงระบบจำลองการเทรดแบบเรียลไทม์และชุดเครื่องมือตรวจจับความเสี่ยง

เจค็อบ แพลสเตอร์(Jacob Pflaester) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของไอโอฟินเน็ตกล่าวว่า เหตุการณ์การแฮ็กไบบิทมูลค่ากว่า 1.46 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ซึ่งส่งผลให้มีสินทรัพย์อีเธอเรียมหายไปกว่า 2.07 ล้านล้านวอน(ประมาณ 14.6 พันล้านดอลลาร์) เป็น ‘บทเรียนสำคัญ’ ที่กระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวด้านความปลอดภัย พร้อมระบุว่า แพลตฟอร์มของไอโอฟินเน็ตมีบทบาทในการช่วยองค์กรให้สามารถบริหารเงินทุน เข้าร่วมโปรโตคอลดีไฟ และทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้อย่างปลอดภัย

ปัจจุบัน ไอโอฟินเน็ตมีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐฯ และมีสำนักงานย่อยในไมอามี ลอนดอน และสิงคโปร์ โดยแพลตฟอร์มได้ผสานการเชื่อมต่อกับกระดานเทรดยักษ์ใหญ่แล้วกว่า 14 แห่ง อาทิ ไบแนนซ์ และคอยน์เบส รวมถึงให้บริการด้านการยืนยันตัวตนผ่านไบโอเมตริกซ์, ตั้งค่าค่าก๊าซ, และเครื่องมือกู้คืนข้อมูลแบบโอเพนซอร์ส

ความคิดเห็น: นี่คืออีกหนึ่งตัวอย่างของการพัฒนาในแวดวงการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลที่ตอบสนองต่อความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในโลกคริปโต โดยเน้นการควบคุมสินทรัพย์ด้วยตนเองซึ่งกำลังได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นในหมู่ผู้เล่นสถาบัน

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1