ราคาบิตคอยน์(BTC) พุ่งทะลุ 100,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สะท้อนแนวโน้มขาขึ้นที่ยังคงร้อนแรง ขณะที่ภาพรวมของตลาดยังพบสัญญาณการกลับเข้ามาของ ‘นักลงทุนรายย่อย’ อย่างชัดเจน
ข้อมูลล่าสุดจากบริษัทวิเคราะห์บล็อกเชนอย่างแซนทิเมนต์(Santiment) ระบุว่า เพียงไม่นานมานี้มีการสร้างกระเป๋าเงินใหม่บนเครือข่ายของบิตคอยน์สูงถึง 344,620 ใบ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเป็นตัวบ่งชี้ของภาวะ ‘FOMO’ หรือความกลัวว่าจะพลาดโอกาสลงทุนที่กำลังทวีความร้อนแรง
โดยทั่วไปแล้ว กิจกรรมบนเครือข่ายของบิตคอยน์มักเคลื่อนไหวสอดคล้องกับทิศทางราคา ก่อนหน้านี้ในเดือนกุมภาพันธ์เครือข่ายประสบภาวะถอนตัวสูง ขณะที่ราคาดิ่งลงแตะระดับต่ำกว่า 75,000 ดอลลาร์ในช่วงต้นเดือนเมษายน ส่งผลให้เกิดภาวะปรับฐานนานนับ 5 เดือน
อย่างไรก็ตาม หลังจากจุดต่ำสุดในช่วงต้นเมษายน ทิศทางก็เริ่มพลิกฟื้น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กิจกรรมบนเครือข่ายทำสถิติสูงสุดในรอบ 6 เดือน และสอดรับกับราคาที่ดีดตัวขึ้นเกือบ 20,000 ดอลลาร์ โดยปัจจุบันบิตคอยน์ทะลุแนวต้านที่ 104,000 ดอลลาร์แล้ว เพิ่มขึ้นกว่า 30,000 ดอลลาร์จากระดับต่ำสุดในเดือนก่อน
อดีตเคยบ่งชี้ว่า การหลั่งไหลเข้าของนักลงทุนรายย่อยมักจะนำไปสู่การปรับตัวขึ้นรุนแรงของราคา แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่ารอบขาขึ้นอาจใกล้จบแล้ว โดยทั่วไปบิตคอยน์จะสร้างจุดสูงสุดใหม่หลังจากนักลงทุนรายย่อยเข้าซื้อไปแล้วไม่กี่เดือน
กระนั้น รายงานล่าสุดระบุว่า ‘ครั้งนี้อาจแตกต่างออกไป’ เนื่องจากบิตคอยน์เริ่มทะลุแนวต้านสำคัญในเชิงเทคนิค ส่งผลให้สัญญาณเชิงบวกจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคเริ่มเข้ามาสนับสนุนกระแสขาขึ้นมากยิ่งขึ้น ความคิดเห็นนี้ทำให้หลายฝ่ายเริ่มตั้งความหวังว่า บิตคอยน์อาจมีพื้นที่ให้พุ่งขึ้นต่อได้อีกในระยะสั้น
ความคิดเห็น 0