พอล แอทคินส์ (Paul Atkins) ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) คนใหม่ ได้เปิดเผยแผนการปฏิรูปการกำกับดูแล *คริปโตเคอร์เรนซี* โดยมีเป้าหมายเพื่อจัดตั้งกรอบกฎหมายที่ชัดเจนสำหรับการออกสินทรัพย์ดิจิทัล การดูแลสินทรัพย์ และการซื้อขาย เพื่อสนับสนุนการเติบโตของตลาดในขณะที่ยังคงปราบปรามการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด
เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) ในการประชุมโต๊ะกลมของกลุ่มภารกิจเฉพาะด้านคริปโตของ SEC แอทคินส์กล่าวว่า "ภารกิจสำคัญของผมในตำแหน่งนี้คือการจัดวางระบบกำกับดูแลที่สมเหตุสมผลสำหรับตลาด *คริปโตเคอร์เรนซี*" พร้อมระบุว่าจะมีการจัดทำข้อกำหนดที่ชัดเจนเกี่ยวกับการออก การดูแล และการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล โดยไม่ลดละความเข้มงวดต่อกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย
เขาวิจารณ์ว่ากฎระเบียบปัจจุบันของ SEC ขัดแย้งกับเทคโนโลยี *บล็อกเชน* โดยกล่าวว่า "ในอดีต SEC พยายามเพิกเฉยต่อคริปโต หวังว่ามันจะหายไปเอง และเมื่อไม่ได้ผล ก็ใช้แนวทางลงโทษก่อน อธิบายทีหลัง" ซึ่งเขามองว่าไม่สอดคล้องกับแนวโน้มของอุตสาหกรรม
เรื่องที่เขามองว่า ‘เร่งด่วนที่สุด’ คือประเด็นการดูแลสินทรัพย์ ซึ่งเขาระบุว่าแนวทางแนะแนว SAB 121 ที่ใช้ในปัจจุบันกลับสร้างความสับสนให้ตลาด และเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขตของ SEC แอทคินส์เสนอให้จัดทำกฎเกณฑ์ที่รองรับการดูแลคริปโตด้วยตนเอง ซึ่งอาจ ‘ปลอดภัย’ ยิ่งกว่าระบบเดิม
นอกจากนี้ เขายังเสนอให้ปรับปรุงกฎระเบียบเพื่อให้บริษัทที่ปรึกษาและกองทุนสามารถดูแลสินทรัพย์ด้วยตนเองตามสถานการณ์ พร้อมทั้งปรับระบบ ‘โบรกเกอร์-ดีลเลอร์’ ให้ทันสมัยและใช้งานได้จริงมากขึ้น และเสนอให้แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถดำเนินการกับทั้งหลักทรัพย์และสินทรัพย์ที่ไม่ใช่หลักทรัพย์ ขณะเดียวกันกฎสำหรับระบบซื้อขายทางเลือก *(ATS)* ก็ควรถูกอัปเดตให้สอดคล้องกับโลกดิจิทัล
ในอีกด้านหนึ่ง แครอลไลน์ เคร็นชอว์ กรรมาธิการ SEC ออกโรงเตือนถึงการ ‘โฆษณาเกินจริง’ ในกระแส *โทเคนไนซ์* โดยเน้นว่าภาคอุตสาหกรรมควรชัดเจนว่าเป็นการแปลงสินทรัพย์เดิมให้อยู่ในรูปดิจิทัล หรือเป็นระบบการซื้อขายรูปแบบใหม่โดยสิ้นเชิง พร้อมย้ำว่า ‘นวัตกรรมต้องตั้งอยู่บนฐานของการพิสูจน์และการใช้งานจริง ไม่ใช่การโหมประโคมตลาด’
ขณะที่ มาร์ก อูเอยะดะ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกรรมาธิการ กลับมองในด้านบวกว่า *โทเคนไนซ์* มีศักยภาพในการเพิ่มประสิทธิภาพตลาดผ่าน *สมาร์ตคอนแทรกต์* และการเพิ่มสภาพคล่อง
*ความคิดเห็น:* ท่าทีของแอทคินส์สะท้อนจุดเปลี่ยนของ SEC ต่อคริปโต ที่ดูจะเริ่มเปิดกว้างมากขึ้นพร้อมรับฟังภาคอุตสาหกรรม แต่อย่างไรก็ตาม การรักษาสมดุลระหว่างการสนับสนุนนวัตกรรมและการคุ้มครองนักลงทุนยังเป็นโจทย์ท้าทายที่ต้องจับตามองต่อไป
ความคิดเห็น 0