แบล็คร็อก(BlackRock) ออกมาเตือนอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับ ‘ความเสี่ยงจากการพัฒนาของคอมพิวเตอร์ควอนตัม’ ในเอกสารอัปเดตของกองทุน ETF บิตคอยน์(BTC) แบบสปอต ‘iShares Bitcoin Trust (IBIT)’ ที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) เมื่อวันที่ 9 โดยระบุว่าความก้าวหน้าของคอมพิวเตอร์ควอนตัมอาจเป็นอันตรายต่อโครงสร้างความปลอดภัยของเครือข่ายบิตคอยน์ และทรัพย์สินดิจิทัลอื่นๆ
ในเอกสารฉบับดังกล่าว แบล็คร็อกเน้นว่า “เทคโนโลยีควอนตัมอาจสามารถทำลายอัลกอริธึมการเข้ารหัสที่ใช้อย่างแพร่หลายในโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศทั่วโลก ซึ่งรวมถึงการเข้ารหัสที่ใช้ในสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างบิตคอยน์” นี่เป็นครั้งแรกที่แบล็คร็อกระบุถึง *ความเสี่ยงจากคอมพิวเตอร์ควอนตัม* โดยตรงในเอกสารเกี่ยวกับการบริหารจัดการ ETF บิตคอยน์
iShares Bitcoin Trust (IBIT) ของแบล็คร็อก ถือเป็นกองทุน ETF บิตคอยน์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยมูลค่าสินทรัพย์ในการบริหารจัดการ (AUM) สูงถึงประมาณ 64,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 93.4 ล้านล้านวอน แบล็คร็อกถือว่ากองทุนนี้เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ลงทุนในตลาดคริปโตที่เริ่มเข้าสู่ระบบการเงินดั้งเดิมมากขึ้น ซึ่งการเปิดเผยความเสี่ยงล่าสุด ถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์เน้นความโปร่งใส เพื่อคงฐานความเชื่อมั่นดังกล่าว
คอมพิวเตอร์ควอนตัมซึ่งใช้หลักการทางกลศาสตร์ควอนตัม (Quantum Mechanics) มีศักยภาพในการประมวลผลข้อมูลเร็วกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์แบบเดิมอย่างมหาศาล อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการถอดรหัสแบบกุญแจสาธารณะที่ใช้ในระบบบล็อกเชน อาจส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่รุนแรงต่อระบบความปลอดภัยของบิตคอยน์และเครือข่ายอื่นที่ใช้เทคนิคเดียวกัน
แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่มองว่าการใช้งานคอมพิวเตอร์ควอนตัมในระดับปฏิบัตินั้นยังต้องใช้เวลาอีกหลายปี ความเคลื่อนไหวของแบล็คร็อกในครั้งนี้กลับสื่อถึงนัยสำคัญต่อทั้งอุตสาหกรรมคริปโตและผู้กำกับดูแล โดยเฉพาะในแง่ของ *การเตรียมรับมือกับความเสี่ยงระยะยาวจากเทคโนโลยี*
‘ความคิดเห็น’: การที่ผู้จัดการสินทรัพย์รายใหญ่ที่สุดในโลกอย่างแบล็คร็อกให้ความสำคัญกับประเด็นนี้ แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่นักลงทุนและหน่วยงานกำกับจะเริ่มจับตาภัยคุกคามเชิงเทคโนโลยีในมิติที่ลึกขึ้น อีกทั้งยังสะท้อนว่าตลาดคริปโตอยู่บนเวทีที่ท้าทายและเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
ความคิดเห็น 0