เคที ฮอบส์(Katie Hobbs) ผู้ว่าการรัฐแอริโซนา ได้ใช้สิทธิคัดค้านร่างกฎหมายสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคริปโตถึงสองฉบับในวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้แผนการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลในระดับรัฐต้องหยุดชะงัก อย่างไรก็ตาม ฮอบส์ได้ลงนามและอนุมัติร่างกฎหมายที่ควบคุมตู้เอทีเอ็มบิตคอยน์(BTC) ที่เข้มงวดมากขึ้นให้มีผลบังคับใช้ตามปกติ
หนึ่งในร่างกฎหมายที่ถูกคัดค้านคือร่างกฎหมายวุฒิสภาหมายเลข 1373 ซึ่งมีเป้าหมายจัดตั้ง ‘กองทุนสงวนยุทธศาสตร์สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Assets Strategic Reserve Fund)’ โดยเปิดทางให้รัฐบาลรัฐสามารถถือครองคริปโตผ่านการยึดทรัพย์หรือจัดสรรงบประมาณ อย่างไรก็ตาม ฮอบส์ให้เหตุผลว่า *“ความผันผวนของตลาดคริปโตในปัจจุบันยังไม่เหมาะสมกับการนำเงินจากกองทุนทั่วไปมาลงทุน”* พร้อมย้ำว่ารัฐมีร่างกฎหมายอื่นที่อนุญาตให้ใช้คริปโตโดยไม่กระทบกับกองทุนของรัฐอยู่แล้ว
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ฮอบส์เคยคัดค้านร่างกฎหมายวุฒิสภาหมายเลข 1025 หรือ ‘กฎหมายกองทุนสงวนบิตคอยน์แอริโซนา (Arizona Strategic Bitcoin Reserve Act)’ ซึ่งอนุญาตให้รัฐบาลรัฐนำเงินลงทุนสูงสุด 10% จากเงินสำรองและกองทุนบำนาญไปลงทุนในบิตคอยน์หรือสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ซึ่งเธอยังคงยืนกรานท่าทีแบบระมัดระวังเช่นเดิม
นอกจากนี้ ฮอบส์ยังปฏิเสธร่างกฎหมายวุฒิสภาหมายเลข 1024 ซึ่งเสนอให้รัฐสามารถรับชำระภาษี ค่าปรับ และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ด้วยคริปโตผ่านผู้ให้บริการรับชำระเงิน โดยให้เหตุผลว่า *“แม้จะมีแนวทางควบคุมความเสี่ยงราคาผ่านตัวกลาง แต่ยังถือว่ามีความเสี่ยงในระดับที่เกินรับได้”*
ตามข้อมูลล่าสุด สหรัฐฯ มี 26 รัฐที่พิจารณาร่างกฎหมายเพื่อจัดตั้งกองทุนสินทรัพย์ดิจิทัลเชิงยุทธศาสตร์ และในจำนวนนี้มี 18 รัฐที่ลงมือดำเนินการแล้ว แสดงให้เห็นถึงกระแสการพิจารณานโยบายคริปโตที่ร้อนแรงในระดับรัฐ
ด้านนักวิเคราะห์มองว่าแนวทางของฮอบส์เป็นเส้นทางที่ตรงข้ามกับ *ทรัมป์* ซึ่งมีแนวโน้มสนับสนุนการยอมรับคริปโตในระดับรัฐบาลกลาง โดย *ความคิดเห็น* หนึ่งระบุว่า *“ความหลากหลายของระเบียบและมุมมองของแต่ละรัฐ ทำให้แนวโน้มการผสมผสานระหว่าง ‘การควบคุม’ และ ‘การยอมรับ’ ยังจะดำเนินต่อไปในอนาคตอันใกล้”*
ความคิดเห็น 0