หลายรัฐในสหรัฐกำลังพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ ‘ทุนสำรองบิตคอยน์(BTC)’ ซึ่งอาจส่งผลต่อการลงทุนในคริปโตในระดับนโยบาย รัฐบาลแต่ละแห่งอาจซื้อบิตคอยน์รวมกันสูงถึง 23,000 ล้านดอลลาร์ ตามการวิเคราะห์ของ ‘แวนเอ็ก(VanEck)’ บริษัทจัดการสินทรัพย์ระดับโลก
เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ แมทธิว ซีกัล(Matthew Sigel) หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินทรัพย์ดิจิทัลของแวนเอ็ก เปิดเผยว่า ขณะนี้มี 20 รัฐที่กำลังพิจารณาร่างกฎหมายเกี่ยวกับทุนสำรองบิตคอยน์ หากกฎหมายเหล่านี้ได้รับการอนุมัติ อาจเกิดอุปสงค์ใหม่ที่สูงถึง 247,000 BTC นอกจากนี้ เขายังชี้ว่าตัวเลขนี้เป็นการประเมินอย่างระมัดระวังและยังไม่รวมถึงการลงทุนเพิ่มเติมจากกองทุนบำเหน็จบำนาญและสถาบันการเงินอื่น ๆ
ปัจจุบัน มลรัฐนอร์ทดาโคตาปฏิเสธร่างกฎหมายดังกล่าวแล้ว แต่รัฐแอริโซนาและยูทากลับเดินหน้าไปอีกขั้นโดยผ่านการพิจารณาของคณะกรรมาธิการของรัฐบาล ขณะเดียวกัน นอร์ทแคโรไลนาได้เสนอร่างกฎหมายที่เปิดทางให้ลงทุนในกองทุน ETF บิตคอยน์ นอกจากนี้ มลรัฐมอนแทนา ไอโอวา แมริแลนด์ โอไฮโอ ฟลอริดา เคนทักกี และนิวเม็กซิโกได้ยื่นร่างกฎหมายเพื่อเปิดโอกาสให้รัฐสามารถลงทุนในบิตคอยน์ได้
หากกฎหมายทุนสำรองบิตคอยน์มีผลบังคับใช้ อาจทำให้เกิดอุปสงค์ของสถาบันการลงทุนที่มีขนาดใหญ่กว่าจำนวน 198,100 BTC ที่รัฐบาลสหรัฐถือครองในปัจจุบัน อ้างอิงจาก ‘อาร์คัม อินเทลลิเจนซ์(Arkham Intelligence)’ ปัจจุบันรัฐบาลสหรัฐถือครองบิตคอยน์จำนวนมากจากกระบวนการสืบสวนและการยึดของกลาง
ขณะเดียวกัน มลรัฐเทกซัสกำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว โดยวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน ชาร์ลส์ ชเวอร์ตเนอร์(Charles Schwertner) ได้เสนอ ‘ร่างกฎหมายทุนสำรองและการลงทุนในบิตคอยน์เชิงกลยุทธ์ของเทกซัส (SB21)’ ซึ่งจะเปิดทางให้รัฐสามารถลงทุนโดยตรงในบิตคอยน์และสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีสภาพคล่องสูง รวมถึงนำมาใช้ในการบริหารการเงินของรัฐ ชเวอร์ตเนอร์กล่าวว่า หากร่างกฎหมายนี้ผ่าน เทกซัสจะเป็นรัฐแรกในสหรัฐที่ถือครองทุนสำรองบิตคอยน์ พร้อมเน้นย้ำว่า "นี่จะเป็นก้าวสำคัญต่อการสร้างระบบการเงินที่เป็นนวัตกรรมใหม่"
ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลท้องถิ่นที่พยายามผลักดันทุนสำรองบิตคอยน์อาจเป็นสัญญาณของแนวโน้มใหม่ในการลงทุนของสถาบันทั่วประเทศ นักลงทุนและภาคตลาดกำลังจับตาดูความคืบหน้าของร่างกฎหมายเหล่านี้อย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0